‘พิธา’ เคลียร์ดราม่าช่วยรวมข้อมูล 228 เคส คนไทยในอิสราเอล พร้อมเสนอรัฐบาล 4 ข้อ
พิธา พรรคก้าวไกล แจงกรณีช่วยรวบรวมส่งข้อมูลเฉพาะหน้า ดูแลความปลอดภัย คนไทยในอิสราเอล จนถึงเที่ยงวันนี้ พบ 228 กรณี พร้อมแนะ 4 ข้อ หลังเปิดลงทะเบียนอพยพแรงงานไทยกลับประเทศ
วันที่ 9 ต.ค.2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ออกมาทวีตจ้อความผ่านบัญชีเอ็กซ์ (X. @Pita_MFP) โดยระบุ จากกรณีที่เกิดเหตุปะทะรุนแรงในอิสราเอลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม และทางผมได้ประชาสัมพันธ์อีเมลสำหรับญาติเพื่อช่วยรวบรวมส่งข้อมูลประสานงาน “เฉพาะหน้า” กับทางการไทยและอิสราเอลเพื่อดูแลความปลอดภัย
ผมได้ประสานส่งข้อมูลกับทางการไทยทันทีหลังเปิดรับอีเมลตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมแล้วโดยส่งข้อมูลให้สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ และในวันนี้จะส่งอีเมลเพิ่มเติมไปยังกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงาน
โดยข้อมูลทั้งหมดเป็นตารางแบบออนไลน์ แยกชื่อ อีเมล หลักฐานระบุตัวตน และเบอร์โทรของญาติสำหรับติดต่อกลับ โดยอัปเดตข้อมูลในตารางแบบ Realtime ทันที่ทีมงานเปิดอ่านข้อความอีเมลและนำข้อมูลมากรอกในตาราง(เฉลี่ยไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังจากได้รับอีเมล)
จนถึงเวลา 12.00 น. วันนี้ ทางผมได้รวบรวมแล้วทั้งสิ้น 228 กรณี แบ่งได้ดังต่อไปนี้:
- คนไทยที่เชื่อได้ว่าถูกจับเป็นตัวประกัน 9 กรณี
- คนไทยอยู่ในเขตสู้รบ ต้องการความช่วยเหลือ 72 กรณี
- กรณีที่ญาติติดต่อไม่ได้ และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน 140 กรณี
- คนไทยอยู่นอกเขตสู้รบ 7 กรณี
ทั้งหมดนี้ ทำไปเพื่อช่วยเป็นสื่อกลางในการประสาน “ชั่วคราว” เพราะในช่วงแรกที่เกิดเหตุ คนไทยในอิสราเอลอาจไม่ได้รับทราบช่องทางการติดต่อสื่อสารและได้ติดต่อมาทางพรรค สส.สุเทพ อู่อ้น และผมเป็นจำนวนมาก หลากหลายช่องทาง เนื่องจากคุณสุเทพได้เคยประสานช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลต่อเนื่องมาตั้งแต่ความขัดแย้งครั้งล่าสุดเมื่อพฤษภาคม 2021 หรือ 2 ปีที่แล้ว
บัดนี้ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงานได้จัดช่องทางการสื่อสารกับพี่น้องแรงงานไทยในอิสราเอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมเชื่อว่าหลังจากนี้การติดต่อสื่อสารโดยตรงระหว่างคนไทยในอิสราเอลกับทางการไทยจะดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ครับ ผมยินดีสนับสนุนภารกิจของรัฐบาล และไม่มีเจตนาจะสร้างความสับสนในภาวะแบบนี้แต่อย่างใด
สำหรับกรณีที่ทางการไทยได้เปิดให้คนไทยในอิสราเอลสามารถลงทะเบียนแสดงความจำนงต้องการอพยพกลับประเทศไทยนั้น ผมได้หารือกับทาง สส.สหัสวัต คุ้มคง และเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน พรรคก้าวไกล โดยมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ดังนี้:
1. คนงานต้องได้รับสิทธิประโยชน์จาก กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ที่คนงานจ่ายสมทบก่อนเดินทางไปทำงาน กรณีต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนสิ้นสุดการเป็นสมาชิกกองทุนเนื่องจากประสบปัญหาจากภัยสงคราม ตามระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ พ.ศ. 2549
2. เนื่องจากมีคนงานที่ยังคงมีหนี้สินจากการกู้ยืมเงินเพื่อให้ได้เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลยังคงกังวลที่จะเดินทางกลับไทยหรืออพยพไปที่ปลอดภัยอื่น เพราะอาจทำให้สัญญาจ้างงานสิ้นสุดลงได้ ทำให้ตกงานแต่ยังมีหนี้สินที่ไปกูยืมมาก่อนเพื่อมาทำงาน
ดังนั้นจึงเสนอให้รัฐบาลต้องเจรจาวางเงื่อนไขการอพยพคนงานไทยที่ไปทำงานผ่าน โครงการความร่วมมือไทย – อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (Thailand – Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) หรือโครงการความร่วมมืออื่นๆ หากสงครามยุติลงให้คนงานที่ถูกอพยพในสภาวะสงครามสามารถกลับไปทำงานได้ตามเดิม
3. เสนอให้รัฐบาลเจรจาผ่อนผันหรือดูแลแนะนำประเด็นหนี้สินของคนงาน
4. กรณีคนงานไทยที่เข้าไปทำงานโดยไม่ผ่านกระทรวงแรงงาน หรือคนงานที่ลักลอบทำงานอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายเสนอให้รัฐบาลดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน และหากคนงานประเภทนี้ต้องการกลับขอให้รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศ
สุดท้ายนี้ ผมขอใช้โอกาสนี้แสดงความเสียใจต่อผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมขอยืนเคียงข้างและช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบเหตุเดือดร้อน และผมขอสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลไทยในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้ปลอดภัยด้วยครับ
จากกรณีที่เกิดเหตุปะทะรุนแรงในอิสราเอลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม และทางผมได้ประชาสัมพันธ์อีเมลสำหรับญาติเพื่อช่วยรวบรวมส่งข้อมูลประสานงาน "เฉพาะหน้า" กับทางการไทยและอิสราเอลเพื่อดูแลความปลอดภัย
.
ผมได้ประสานส่งข้อมูลกับทางการไทยทันทีหลังเปิดรับอีเมลตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 7…— Pita Limjaroenrat (@Pita_MFP) October 9, 2023