ดูโหนกระแสวันนี้ ไขคดีค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ทําไม กรรชัย เชิญ ท่านเรวัช อธิบายยิบชี้สถานการณ์บังคับวันขอตรวจค้นพร้อมหมายจับ พูดเองเป็นตนไม่ไป ระเบียบไม่ครบกระทบสามัคคี ผู้การแต้ม ชี้ประเด็นสำคัญรองผู้บัญชาการตำรวจต้องตอบให้ได้เส้นทางการเงินลูกน้องที่พบพิรุธหรา
รายการโหนกระแสวันนี้ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เชิญ “ท่านเรวัช” พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และ “รองแต้ม” พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 มาร่วมกันซักไซ้ไล่เรียงประเด็นใหญ่ข่าวสะเทือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติระลอกล่าสุด
กับกรณีบุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งในรายการหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลคร่าว ๆ วันเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าขอค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ทาวน์โฮม 3 ชั้นเชื่อมติดต่อกัน 2 คูหา เลขที่ 9/147 และ 9/148 ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ด้านหลังสโมสรตำรวจ ก่อนจะถูกปฏิเสธ
“ถามไปจับที่อื่นได้ไหม ทำไมต้องจับตรงนั้น แต่ออกหมายแล้วต้องจับเพราะต้องรายงานศาลจับได้-ไม่ได้” พล.ต.ต.วิชัย ผู้การแต้ม กล่าวให้ข้อมูลเวลาการไปขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาของทางตำรวจ ก่อนจะกล่าวต่อถึงประเด็นการบุกค้นเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.66) ไม่มีการนำผู้บังคับบัญชามาแล้ว บิ๊กโจ๊กบอกให้กลับไปซะ !”
เรื่องนี้แขกรับเชิญ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 ก็ระบุชัดเจนว่า ประเด็นไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นำขอตรวจค้นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะปฏิเสธคำสั่งหมายจับดังกล่าวจากศาลได้
“ผู้การแต้ม” ยังกล่าวพร้อมยกตัวอย่างที่ก่อนจะอธิบายปมปัญหาล่าสุด ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอที่ทรางรยการโหนกระแสของ “กรรชัย” ได้ฉายภาพวินาทีที่ บิ๊กโจ๊กแจ้งกับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นว่าให้นำกลังกลับไป ในจุดนี้แขกรับเชิญอดีตนายตำรวจใหญ่ก็ยืนยันว่า บิ๊กโจ๊กจะอ้างว่าไม่มีชื่อนายตำรวจระดับผู้ใหญ่มานำ เป็นไปไม่ได้เพราะเวลาขอหมายค้น ใครเป็นผู้นำการตรวจค้นทางเจ้ากน้าที่ของศาลจะเขียนระบุไว้ชัดเจนในเอกสารเลย อาทิ ให้ตรวจค้นตั้งแต่เวลานั้นถึงเวลานี้ มีนาย ก. หรือเจ้าหน้าที่คนไหนเป็นผู้นำการตรวจค้น
“เอาล่ะ แต่ถ้ากรณีรอง ผบ.ตร. เรื่องกฎหมายไม่ผิด แต่เรื่องมารยาทอย่างน้อยก็เอาระดับผู้ใหญ่ ผู้บัญชาการมาพูดคุยมีความจำเป็นอย่างนี้ ๆ ก็ต้องแยกให้ถูก” รองแต้ม กล่าวยืนยันประเด็นค้นบ้านพักบิ๊กโจ๊ก
ฟังมุม เรวัช ลั่นเสียงแข็ง เป็นผมไปค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ไม่ไปเป็นอันขาด
ต่อมา พล.ต.ท.เรวัช อีกหนึ่งแขกรับเชิญก็ได้โอกาสแสดงความเห็นส่วนตัวในฐานะอดีตคนในแวดวงสีกากี โดยยืนกรานกับผู้ดำเนินรายการ หนุ่ม กรรชัย หนักแน่น ปมนำกำลังเข้าขอตรวจค้นบ้านรองผู้บัญชาการตำรวจล่าสุดนั้น ถ้าหากเป็นตนเองต่อให้ศาลออกมาหมายค้นแล้ว แต่ถ้าเป็นบ้าน รองผบ.ตร. ตนไม่ขอเข้า เพราะให้เกียรติ
“พอไปเจอบิ๊กโจ๊กเนี่ย สิ่งแรกต้องทำ ครับ ! (กล่าวพร้อมกับทำท่ายกมือขึ้นมาป็สัญลักษณ์ “ท่าวันทยหัตถ์”) ระเบียบไม่ครบกระทบสามัคคีนี่ผิดวินัยตำรวจ 1. คือผมไม่ไป เสือกัดเสือมันเจ็บ”
“แต่นี้ผมคิดว่า ชุดจับกุมไม่ทราบว่า บ้านรองโจ๊กพักอยู่ที่นี่ แต่ถามทำไมต้องนำชุดคอมมานโดไป ถ้ามาแค่ 10 คนนี่ผมเคี้ยวหมูเลย แล้วตำรวจชุดนี้ที่ไปจับหนุ่มกว่าผมเยอะ” ท่านเรวัช นายตำรวเจ้าของฉายา “มือปราบศยามล” ระบุ ก่อนจะตัดบทว่า ชีวิตนี้ไม่เคยมีศัตรูเป็นตำรวจเพราะทะเลาะกับโจรอย่างเดียว
2 อดีตตำรวจใหญ่ ฟัน “คดีบิ๊กโจ๊ก” ปมเส้นทางการเงิน มีข้อสำคัญ ๆ ที่ต้องตอบให้ได้
ขณะที่ประเด็นเรื่องของการเปิดเผยความไม่ชอบมาพากลของเส้นทางการเงินที่ตอนนี้ ตำรวจ 8 นาย ซึ่งเป็น .ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก. ถูกควบคุมตัวเพื่อเค้นสอบข้อเท็จจริง หลังพบเส้นทางการเงินมีความเชื่อมโยงกับ มินนี่ เจ้าแม่เว็บพนัน โดยเฉพาะ พ.ต.อ. ภาคภูมิ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 (บก.สส.ภ.4 บช.ภ.4) คนสนิทของบิ๊กโจ๊กที่จากรายงานการสืบสวนระบุว่า เมื่อตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของมินนี่ก็พบมีแชตสนทนาตลอดจนรายงานยืนยันว่า “มินนี่” และ “พ.ต.อ. ภาคภูมิ” ต่างมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง
ทั้งคู่ถ่ายภาพสนิทสนมแนบชิด และ พ.ต.อ. ภาคภูมิ ยังแจ้งเลขบัญชีม้าให้มินนี่ โดยที่ฝ่ายนายตำรวจเป็นคนถือบัญชีม้าเพื่อให้มินนี่โอนเงินเข้ามา ก่อนที่ พ.ต.อ. ภาคภูมิ จะกระจายเงินไปให้ตำรวจ 8 นาย
ผู้การแต้ม กล่าวว่า ประเด็นบิ๊กโจ๊กร้องเพลงกับมินนี่ อาจเป็นไปได้ว่าไม่ทราบมาก่อนตอนนั้นว่า มินนี่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันน แต่ถ้าผู้หญิงคนดังกล่าวถูกจับก่อนที่จะมาร้องเพลง ตรงนี้น่าคิดแน่
ทั้งนี้ หลังจากคลิปหลุดออกมาจนสังคมตั้งคำถามไปอยู่ด้วยกันได้อย่างไร ทางหนุ่ม กรรชัย ก็ชี้แจงด้วยการอ้างการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ “บิ๊กโจ๊ก” ที่ตอบในประเด็นนี้ว่าตนเองไม่รู้จักกับผู้หญิงในคลิปก่อนจะมีภาพหลุด “มินนี่” กับ “พ.ต.อ.ภาคภูมิ”
ประเด็นต่อมาเส้นทางการเงินขยายผล ตรวจสอบโทรศัพท์มินนี่ มีการโอนเงินผ่านบัญชีม้าชื่อพุฒิพง พูลศรี ไปอยู่กับพ.ต.อ.ภาคภูมิ จนเกิดเป็นพิรุธว่าเงินโอนจำนวนดังกล่าวมีเส้นทางที่มาที่ไปอย่างไร แล้วมาอยู่ในมือของนายตำรวจลูกน้องบิ๊กโจ๊กที่ชื่อ “ภาคภูมิ” ได้อย่างไร ? เพราะมีเงินโอนเข้ามา 51 ครั้ง เป็นเงินทั้งหมด 3,659,890 บาท ยิงลงมาอีกหนึ่งบัญชี “ครรชิต สองสมาน” ผู้ต้องบัญชียาเสพติดกำลังหนีคดีอยู่
ทั้งหมดทั้งมวล จุดที่น่าสนใจ คือ “เงินออกจากบัญชีครรชิต” โดยถูกโอนต่ออีกทอดให้กับ พ.ต.ท.คริษฐ์ รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งเป็นเลขาคนสนิทคอยดูแลยบัญชีใช้จ่ายทั่วไปให้กับบิ๊กโจ๊ก และจากบัญชีของเลขาลูกน้องรอง ผบ.ตร. เงินกูถูกโอนอีกทอดไปหาตำรวจแต่ละนายอีก 7 นาย ซึ่งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นานามาจากบัญชีโอนของ พ.ต.ท.คริษฐ์
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของประเด็นดังกล่าว ทางบิ๊กโจ๊กแจ้งกับพนักงานชุดสืบว่าตนเองก็ไม่ทราบทำไมลูกน้อง พ.ต.ท.คริษฐ์ ถึงทำแบบนั้นลงไป
ขณะที่ พล.ต.ท.เรวัช มองประเด็นนี้ว่า ตำรวจ 2 นาย (ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก) ที่ถือบัญชีม้าอาจมีการรับส่วยเพราะอยู่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ เด็กที่ถือบัญชีม้าค่อนข้างลำบาก
ด้าน ผู้การแต้ม ก่อนจะอธิบายมีการระบุให้ชึ้นกราฟฟิคเส้นทางการเงินอีกรอบ พร้อมค่อย ๆ ร่ายเรียงว่า มีความซับซ้อน-ลับลมคมในโดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่โอนไปหลายทอด การกระทำจะเป็นตัวชี้เจตนาบริสุทธิ์หรือไม่ ?
ตัวอย่างสังเกตง่าย ๆ นายครรชิต เป็นผู้ต้องหายาเสพติดจะโอนเงินให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ รอง ผกก.สส.สถ.สำโรงเหนือ การโอนเงินตรงนี้ทำให้เกิดความสลับบซับซ้อนเหมือนมีเงื่อนงำจนเป็นที่มาของเหตุให้ถูกออกหมายจับ แต่ที่เกี่ยวข้องที่สุดคือการโอนไปให้ “มารดาของรองโจ๊ก” ซึ่งเป็นจุดสำคัญในคดีที่ทาง รองผบ.ตร.ต้องชี้แจงตรงนี้ให้ได้ ไม่นับข้อมูลเส้นทางเงินอื่น ๆ ที่เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีกำลังตรวจสอบและไม่ได้เปิดออกมาทั้งหมดด้วย.
ขอบคุณคลิป : Live โหนกระแส ตำรวจ ตัด ตำรวจ 2!!! / โหนกระแส [Hone-Krasae] official (@honekrasaeofficial).
- บิ๊กโจ๊ก ลั่น ผมไม่หมู แจงเส้นทางการเงินละเอียด
- หนุ่ม กรรชัย ถามถึงชุดนอนบิ๊กโจ๊กหลังชาวเน็ตแห่สงสัย
- ตัวละครใหม่ เฮียแต๋ม นักธุรกิจขนส่งรายใหญ่ เจ้าของบ้านบิ๊กโจ๊ก
