ข่าวข่าวการเมือง

‘โจ๊ก หวานเจี๊ยบ’ ฉายาบิ๊กตำรวจนี้ไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ พลิกปูมมีอึ้ง ! ยิ่งกว่าแมว 9 ชีวิต

เปิดที่มา โจ๊ก หวานเจี๊ยบ ฉายาพลตำรวจเอก แมว 9 ชีวิต สุรเชษฐ์ หักพาล ขนานนามดุจน้ำเชื่อมไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย ประวัติเส้นสายวงการสีกากี 29 ปี นับตั้งแต่รับราชการตำแหน่งรองสารวัตร เด้งฟ้าผ่า รถส่วนตัวถูกยิง ลาบวชอินเดีย 9 วัน ก็เคยมาแล้ว ก่อนวินาทีเจอบุกค้นบ้านเอี่ยวพนันนอนไลน์วันนี้

วันที่ 25 กันยายน 2566 เป็นข่าวที่ร้างแรงสั่นสะเทือนอีกระลอกใหญ่ให้กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากวันนี้ที่ล่าสุดชุดปฏิบัติการพิเศษได้ทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 25 จุด ทั่วประเทศ โดยหนึ่งในนั้นมีบ้านของทีงาน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ย่านวิภาวดี 60 หลังพบคนใกล้ชิดมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การพนัน

ขณะที่ตำรวจนำกำลังเข้าค้น “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ภายในบ้านและออกมาคุยกับเจ้าหน้าที่ด้วยชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น ถุงเท้าขาว ไม่สวมรองเท้าเบื้องต้นยืนยันความใบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ และรู้สึกแปลกใจกับหมายค้นจากตำรวจไซเบอร์ที่นำมา

บิ๊กโจ๊ก ค้นบ้าน
แฟ้มภาพ

ทั้งนี้ ด้วยกระแสการนำกังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ บุกเข้าตรวจค้นฟ้าผ่าเที่ยวล่าสุด ก็ทำให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ชายหนุ่มวัย 52 ปี ที่เริ่มรับราชการตำรวจ ในปี 2537 ตำแหน่ง “รองสารวัตร” กระทั่งได้รับสมญานาม โจ๊ก หวานเจี๊ยบ ตกเป็นที่จับตามองอีกครั้ง นับจากกหนสุดท้ายที่เคยตกเป็นขาวใหญ่โดนสั่งเด้งฟ้าผ่าขาดจากตำแหน่งหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อโอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2562

ข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวแอมไซยาไนด์
แฟ้มภาพ

วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ บ้าง ?

ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หรือ “บิ๊กโจ๊ก” เคยเจอกับวิบากกรมบนเส้นทางสีกากี ด้วยการถูกคำสั่งเด้งฟ้าผ่าถึงสองครั้งสองคราซ้อน ๆ จาก 2 ผู้บังคับบัญชา โดยฟ้าผ่าเปรี้ยงแรก เกิดเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2562 ตอนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ บิ๊กโจ๊กไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย

พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ คือใคร
แฟ้มภาพ

ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูงจากคมชัดลึก ระบุ คำสั่งดังกล่าวเป็นที่รู้กันดีในแวดวงสีกากีว่า คือ “คำสั่งดอง”

คำสั่งเด้งเปลี้ยงที่สองมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. “บิ๊กโจ๊ก” ถูกเพิ่มรายชื่อในบัญชีเพื่อได้รับการตรวจสอบจาก ป.ป.ช. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เนื่องด้วยมีมู ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน กับปัญหาล่าสุดที่ถูกตำรวจไซเบอร์นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักย่านวิภาวดี หลังสโมสรตำรวจ ก็อาจจะเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์นายตำรวจ”แมว 9 ชีวิต” อีกคำรบหนึ่งแบบใหญ่ ๆ เลยทีเดียว

แถลงข่าว ผบ.ตร. คดีวางยาไซยาไนด์
แฟ้มภาพ

โจ๊ก หวานเจี๊ยบ มีความโดดเด่นด้วย ‘สตอรี’ ขณะที่คนอื่นไม่มี”

อ้างอิงข้อมูลจากบีบีซีไทย ระบุ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” คือ ฉายาที่เขาได้รับจากคนรู้จักและผู้สื่อข่าวสายตำรวจ เนื่องจากทำได้สารพัดงาน พูดจาสุภาพอ่อนหวาน-ยกมือไหว้ได้ทุกคน ท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนและความใส่ใจในทุกรายละเอียด

นายตำรวจผู้ใหญ่นายหนึ่งบรรยายถึงลักษณะพิเศษของ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ให้บีบีซีไทยฟังว่าหากเขานำของไปอวยพรผู้ใหญ่หรือให้สิ่งของผู้หนึ่งผู้ใด แม้ราคาค่างวดจะไม่ได้มาก อาทิ มะม่วง “มะม่วงของโจ๊ก จะมีความโดดเด่นด้วย ‘สตอรี’ ขณะที่คนอื่นไม่มี”

สำหรับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เกิดที่จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของนายดาบตำรวจไสว และนางสุมิตรา หักพาล พ่อของเขาเป็น ผบ. หมู่อยู่หน่วยพลาธิการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ที่ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้

“พล.ต.อ. สุรเชษฐ์” เก่งทั้งกีฬาและการเรียน เรียนมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ สถานศึกษาชั้นนำของ จ.สงขลา เป็นนักกีฬาเทนนิสฝีมือระดับเยาวชนทีมชาติ กระทั่งเข้าสู่รั้วโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 31 ก่อนเข้ารั้วสามพราน โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 47 เป็นผู้หมวดหนุ่มในวัย 23 ปีเศษ โดยเริ่มต้นชีวิตราชการเหมือนนายตำรวจใหม่ทุกคน เป็นพนักงานสอบสวนในนครบาล 2 ปี

หลังเผชิญขวากหนามคำสั่งเด้งสั้ง 2 หน ปีถัดมาไม่นานรถยนต์ส่วนตัวถูกยิงเมื่อช่วงต้นปี มกราคม 2563 หลังจากนั้น “บิ๊กโจ๊ก” ลากิจไปบวชที่อินเดียเป็นเวลา 9 วัน และกลับมาใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในชีวิตข้าราชการพลเรือนไปถึง 2 ปีเต็ม ท่ามกลางกระแสข่าว เขาพยายามทุกวิถีทางจะโอนกลับไปรับราชการตำรวจอีกครั้งให้ได้ เพราะอายุราชการยังยาวไกลไปถึงปี 2574 ก่อนที่สุดท้ายจะได้มาเห็นหน้าค่าตา นายตำรวจมาดละเมียดผิวสีน้ำตาลเข้มอีกครั้งในช่วงหลังนับตั้งแต่ปี 2564 ที่เจ้าตัวกลับมาผงาดในวงการกรมตำรวจอีกครั้ง

จากสาเหตุการได้เลื่อนจาก ที่ปรึกษา (สบ 9) สตช. ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. โดบบิ๊กโจ๊กหรือ “รองโจ๊ก” ถือเป็นตำรวจอีกหนึ่งนายที่ขยับขึ้นเป็นระดับนายพลในเวลาอันรวดเร็ว และไม่ใช่เรื่องยากที่จะขยับเป็น “รอง ผบ.ตร.” เพราะการเลื่อนเป็นไปตามลำดับอาวุโส

ทั้งนี้ ท่ามกลางหระแสจับตาการเกษียณอายุราชการของ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผุ้บัญชากากรตำรวจในวันที่ 30 กันยายน 2566 เดิมทีโผรายชื่อ 1 ใน 4 แคนดิเดตที่จะมีโอกาสขึ้นเป็นผบ.ตร.คนที่ 14 หนึ่งในนั้นปรากฏตัวอักษรที่สามารถสะกดออกมาได้ชื่อของนายตำรวจใหญ่ที่เคยได้รับผิดชอบคดีใหญ่ ๆ มานับไม่ถ้วน

ล่าสุดก็ “คดีกำนันนก” อดีตผู้นำชุมชนที่สั่งยิงตำรวจทางหลวงที่นายตำรวจระดับผบ.ตร. ถึงขั้นออกตัวทำคดีอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้าย ผบ.ตร. ก็มีคำสั่งโอนคดีฉาวอดีตผู้นำชุมชนไปให้กองปราบรับช่วงต่อแทน และหลังจากนั้นไม่นาน นายตำรวจที่เคยรับผิดชอบคดีใหญ่ก็กำลังจะกลายสภาพมาเป็นผู้ถูกเพื่อนร่วมอาชีพวงการผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ด้วยกันเองซักไซ้ไล่เรียงพยานหลักฐาน ไปจนกระทั่งเค้นสอบปากคำเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง โดยการร่วมมือจากผู้บังคับบัญชา ยศระดับ รอง.ผบ.ตร. ที่จะต้องให้การในฐานะผู้ต้องสงสัย.

ข่าวบิ๊กโจ๊กค้นบ้าน
แฟ้มภาพ

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button