‘รองต่อ’ ยืนยัน วิสามัญ ‘หน่อง ท่าผา’ ไม่ใช่การฆ่าปิดปากหรือแก้แค้น
รองต่อ ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าปิดปากหรือแก้แค้น หลังก่อเหตุวิสามัญ หน่อง ท่าผา ชี้คนร้ายต่อสู้ขัดขืน จึงวิสามัญตามคำสั่ง
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการวิสามัญ หน่อง ท่าผา หลังจากที่มือปืนยิงตำรวจทางหลวงยิงโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าล้อมจับกุม ทำให้ตำรวจกระโดดหาบังเกอร์หลบกระสุนและยิงไปที่นายหน่อง จำนวน 4 นัด กระสุนเข้าบริเวณลำคอ 1 นัดและหน้าอก 1 นัด ข้างลำตัว 1 นัด อีกนัดยิงไม่โดน ทำให้คนร้ายเสียชีวิตในที่สุด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้สัมภาษณ์หลังมีการถูกตั้งคำถามว่าเป็นการฆ่าตัดตอนหรือไม่ โดยประเด็นนี้รองต่อระบุว่า ปัจจุบันมี พรบ.อุ้มหาย และตำรวจไม่ได้มีเจตนาจะแก้แค้น เพราะถ้าหากจับกลุ่มได้ก็สามารถที่จะสอบปากคำไปถึงตัวคนที่บงการยิงในตำรวจระดับสารวัตรถึง 5 นัดได้ แต่นายหน่องต่อสู้ขัดขืน ซึ่งได้มีคำสั่งเด็ดขาดไปแล้วว่า หากมีการยิงต่อสู้ให้วิสามัญได้ทันที
ส่วนกรณีมีตำรวจอยู่ในงานขณะเกิดเหตุ แต่กลับไม่มีใครให้การช่วยเหลือหรือจับกลุ่มคนร้าย ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลประเด็นนี้ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ในเวลาต่อมา ภรรยาของนายหน่อง ได้เดินทางลงมายังบริเวณจุดเกิดเหตุวิสามัญ เพื่อขอเข้าไปดูศพของสามี โดยภรรยาของนายหน่องให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อหานายหน่อง เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวกับตำรวจหลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาจึงได้ข่าวจากทางตำรวจว่านายหน่องถูกวิสามัญฆาตกรรมในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ตนเองเดินทางมาดูศพ ส่วนตัวนายหน่องมีนิสัยเป็นคนใจร้อน วู่วาม จึงอาจจะเป็นสาเหตุที่ตัดสินใจลงมือในครั้งนี้
หลังจากนี้ศพของ นายหน่อง ทางตำรวจได้มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิขุนรัตนาวุธ นำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดต่อไป