พ่อคาใจลูกเสียชีวิต แพทย์ระบุไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่พบบาดแผลตามลำตัว เชื่อถูกฆาตกรรม
วันที่ 31พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้แฟสบุคชื่อฐานิกา บำรุง
ได้โพสต์ภาพผู้ชายนอนเสียชีวิตพร้อมกับข้อความว่า พี่ชายได้เสียชีวิต ลงเมื่อวันที่ 21 พ.ค.61 ที่อำเภอเกาะลันตาประมาณตอนเที่ยงได้พาศพไปโรนงพยาบาล แพทย์ระบุเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ชั่วโมงแล้ว ไม่พบสาเหตุการเสียชีวิต
แต่ทางญาติติดใจ เนื่องจากตามร่างกายมีรอยแดงช้ำ ตามภาพ เมียผู้ตายบอกว่า สามีเป็นลมแต่ทางญาติไม่คิดว่าจะเสียชีวิตจากการเป็นลม จึงอยากข้อร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือพิสูจน์ความจริงต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตามหาผู้ใช้เฟสบุคดังกล่าว พบนายตาเหลบ บำรุง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/8 ม.3 ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมกับบอกว่า ฐานิกา บำรุง คือลูกสาวของตนเอง พร้อมกับเล่าสาเหตุที่ลูกสาวได้โพสต์เฟสบุคมีข้อความดังกล่าวข้างต้นว่า เนื่องจากสงสัยกับผลการชันสูตรของแพทย์โรงพยาบาลเกาะลันตา ถึงสาเหตุการตายของพี่ชายตัวเอง ชื่อนายปรีชา บำรุง
อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 225 ม.4 ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และเป็นลูกของตนด้วยคนหนึ่ง เนื่องจากผลการชันสูตรและข้อเท็จจริงมันสวนทางกับข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง นายตาเหลบ ได้ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่ลูกชายจะเสียชีวิต ได้แต่งงานอยู่กินกับนางสุดารัตน์ ปราบเภท อายุ 36 ปี มีบุตรด้วยกัน 1 คน เป็นชาวอำเภอเกาะลันตา และได้สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกัน ด้วยการทำธุรกิจท่องเที่ยว จนเริ่มมีฐานะ และก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต ในช่วงค่ำของคืนวันที่ 21 พ.ค.61ลูกสะใภ้ คือนางสุดารัตน์ ได้โทรมาหาพร้อมกับบอกว่าให้มาเอาลูกชายหลบไปด้วย นางไม่เอาแล้ว และตนก็ได้ขอคุยกับลูกชาย ลูกชายก็พูดมาเพียงสองประโยคว่า ปะเชื่อลูกชายตัวเองหรือว่าเชื่อคนอื่น หลังจากนั้นในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ก็มีโทรศัพท์มาบอกว่าลูกของตนเสียชีวิต เนื่องจากเป็นลม
นายตาเหลบ กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวและสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย ก็รู้สึกตกใจ เพราะเมื่อช่วงกลางคืนยังพูดคุยกันอยู่ และหลังจากที่ไปรับศพลูกชายกลับมาฝังตามพิธีทางศาสนาอิสลาม ที่บ้าน ได้พบพิรุธหลายอย่างในใบรับรองการตายทั้งการระบุสาเหตุการตายของบุตรชาย โดยแพทย์ระบุว่า ไม่ทราบสาเหตุ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีคนเซ็นชื่อรับศพลูกชายแทนด้วย และขณะที่นำกลับมาอาบน้ำศพที่บ้านก็สังเกตเห็นว่าคอลูกชายหมุนได้ คล้ายกับคอหัก
นอกจากนี้ตามตัวและกกหูขวาก็ยังมีบาดแผลคล้ายกับถูกแทงด้วยเหล็กแหลม จึงเชื่อว่าลูกชายของตนถูกฆาตกรรม นายตาเหลบ ยังบอกด้วยว่า มีคนเล่าให้ฟังว่าในช่วงกลางดึกก่อนที่ลูกของตนจะเสียชีวิต มีเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง
พร้อมกับมีเสียงลูกชายของตนร้องขอชีวิต ด้วย และหลังจากที่เสียงทะเลาะเงียบไป
ก็มีรถมอเตอร์ไซต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว และเป็นที่น่าสังเกตอีกก็คือ ทำไมตอนที่ลูกชายตนเสียชีวิตใหม่ๆ ลูกสะใภ้ จึงไม่โทรมาบอก แต่มาบอกอีกทีในช่วงบ่ายแล้ว
เพราะในใบรับการตายแพทย์ยังได้ระบุว่าลูกชายของตนเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนอยู่บ้านเดียวกันจะไม่รู้ ว่าสามีตัวเองเสียชีวิต ปล่อยเวลาให้ล่วงเลย 4-5 ชั่วโมง จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายด้วย