ข่าว

‘พระพยอม’ ไม่เคยได้ยิน ‘เทพสี่หูห้าตา’ ชี้อุปโลกน์กันไปเอง

พระพยอม แสดงความเห็นเรื่อง เทพสี่หูห้าตา ว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ชี้อุปโลกน์กันไปเอง อยากฝากถึงชาวพุทธว่าสิ่งที่เรานับถือมันต้องน่าเลื่อมใส

จากกรณีที่มูลนิธิสุบินนิมิต ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี สร้างองค์เทพสี่หูห้าตา หรือ เรียกอีกชื่อว่า องค์อินทร์แปลง ขนาดความสูง 24 เมตร บนพื้นที่ที่มีขนาดกว่า 6 ไร่ และมีประชาชนเดินทางเข้าไปไหว้สักการะกันอย่างต่อเนื่องนั้น

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อพูดคุยกับพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ถึงกระแสดังกล่าว หลังมีการระบุว่า องค์อินแปลงสี่หูห้าตา ที่มีตำนานพระอินทร์จำแลงลงมาในยุคข้าวยากหมากแพง พระพยอม กล่าวว่า ธรรมดาเรื่องตา เรื่องหู ถ้าแปลเป็นภาษาทั่วไปก็มี 2 หู แต่ถ้ามีตาทิพย์ หูทิพย์ หรือเรียกว่าดวงตาเห็นธรรม เห็นว่าอะไรเกิดขึ้น ตั้งอยู่และต้องเสื่อมไป ไม่เกี่ยวกับเรื่องดับทุกข์ในพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องใหม่ที่แปลกมาก ครูกายแก้วยังไม่ทันจบมี 4 หู 5 ตาเพิ่มมาอีก

กลายเป็นเรื่องที่เทพจำแลง พระพุทธศาสนายังไม่หมดอายุ ยังอยู่ได้อีกเป็น 1,000 ปี ทำไมรีบแซงคิวเหลือเกิน ตั้งแต่โรงแรมเอราวัณเอาพระพรหมไป องค์แรกก็โดนทุบไปแล้ว พระพรหมมี 4 แขน ยังปกป้องตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้นการไปพึ่ง 4 หู 5 ตาที่แปลกๆ เป็นการตลาดที่ทำอย่างไรจะดึงคนเข้าไป เกิดการขายของตามมา ที่บอกว่ากินถ่านดำก็คล้ายๆ กับราหูต้องกินไก่ดำ อะไรดำๆ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาสีขาวไม่ชอบสีดำ สีดำมักจะไปงานศพ ไปปฏิบัติธรรมหรือทำอะไรก็จะใช้สีขาว เพราะฉะนั้นชาวพุทธหยุดเป็นชาวพุทธหลายใจ ทิ้งสิ่งดั้งเดิมคือพระรัตนตรัย สิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นฝั่งภาคใต้ มักจะไปเกิดสิ่งวิปริตที่ฝั่งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน ไม่ค่อยพึ่งตัวเอง ไปพึ่งอะไรไม่รู้

พระพยอม กล่าวอีกว่า พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าทำดีความดีจะคุ้มครองเราเอง เพราะที่พึ่งแปลว่าปกป้องช่วยเหลือเจือจุน การไปหาที่พึ่งนอกศาสนาก็มีมานาน ตั้งแต่จตุคามรามเทพ ไอ้ไข่ ช่วงนี้เรตติ้งตก ตอนนี้น่ากลัวระหว่าง 4 หู 5 ตากับครูกายแก้วมาแย่งซีนพระพิฆเนศ ท้าวเวสสุวรรณ ไม่เคยได้ยินเรื่อง 4 หู 5 ตามาก่อน ฝั่งเขมรก็บอกไม่มี ไปๆ มาๆ สิ่งเหล่านี้คืออุปโลกน์กันไปเอง อยากฝากถึงชาวพุทธว่าสิ่งที่เรานับถือมันต้องน่าเลื่อมใส และมีหนึ่งคำที่กล่าวกันไว้ เห็นแล้วต้องมีแรงจูงใจให้เกิดศรัทธาและเป็นสุข

คล้ายที่คนไปกราบไหว้หลวงพ่อพระพุทธชินราช เห็นแล้วสง่างามน่ากราบไหว้ ไม่อมทุก์ไว้เลยเหมือนปล่อยวาง แล้วมากราบรูปร่างหน้าตาแบบนี้จะเอาความผ่องใสจากไหน เห็นแล้วเจริญตาเจริญใจได้อย่างไร สำหรับคนกลุ่มหนึ่งแต่ก็ไม่ควรปล่อยเขาไป สิ่งนี้เหมือนเป็นม่านบังพระรัตนตรัยให้เลือนลางจางไป ชาวพุทธหลายใจไม่เหมือนอิสลามอัลเลาะห์องค์เดียว คริสต์ก็พระเจ้าองค์เดียว

หากใครจะเดินทางไปสักการะบูชาระวังจะเสียเวลาที่ไปศรัทธาสิ่งที่ไม่สัมปะยุตด้วยปัญญา ถ้าไปกราบไหว้สิ่งเหล่านั้น อย่าไปเชื่อคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ถึงเชื่อก็ต้องศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจ ให้เกิดผลเชิงประจักษ์ ถ้าสิ่งพวกนี้ศักดิ์สิทธิ์จริงช่วยดลบันดาลให้ตั้งรัฐบาลหรือแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้หรือไม่ จะเป็นการช่วยและเป็นผลดีต่อชาติบ้านเมือง อย่าให้เป็นผลดีเฉพาะกลุ่ม

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button