‘ชูวิทย์’ ยื่นหลักฐานให้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ สอบ ‘แสนสิริ’ ปมฟอกเงิน-นอมินี
ชูวิทย์ ยื่นหลักฐานให้ บิ๊กโจ๊ก ร้องให้ตรวจสอบบริษัทแสนสิริและกลุ่มนอมินี ปมฟอกเงิน เผยวันที่ 21 ส.ค. จะเผยธาตุแท้ของนายทุน
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นกล่าวโทษต่อคณะกรรมการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นนอมินีซื้อขายที่ดิน ในข้อหาทำเอกสารอันเป็นเท็จ , จัดตั้งบริษัทนอมินี และฟอกเงิน
นายชูวิทย์กล่าวว่า เอกสารหลักฐานที่นำมายื่นต่อ มี 2 เรื่อง เรื่องแรกคือที่ดินถนนสารสิน ขอให้มีการตรวจสอบว่ามีการกระทำการหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่ เพราะมีรายละเอียดว่าการโอนที่ดินมีการแยกโอน 12 คน 12 วัน ใช้เวลารวม 3 อาทิตย์ เพื่อเป็นการเลี่ยงจ่ายภาษีแบบกลุ่มบุคคล
ที่ผ่านมากรมที่ดิน กรมสรรพากร และคำพิพากษามีการตัดสินพฤติการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้ว แต่การที่นำข้อมูลสำคัญมาให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อให้เรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวน ว่าพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการหลบเลี่ยงภาษี หรือไม่
ข้อมูลที่นำมายื่นอีกส่วน คือที่ดินบนถนนทองหล่อ เนื่องจากมีการจัดตั้งนอมินีขึ้น 3 คน เป็นแม่บ้าน 1 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน เข้ามาแสดงชื่อซื้อขายที่ดิน ซึ่งคำถามที่สังคมสงสัยคือ นอมินีทั้ง 3 คนนี้ เป็นของใคร
และในวันเดียวกันพบว่ามีการทำ 3 นิติกรรม คือเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด, กู้เงิน 1 พันล้านบาทจากบริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด และการปลดจำนองหนี้กับธนาคาร 465 ล้านบาท
รอง ผบ.ตร. ต้องเรียกแม่บ้าน รปภ. มาสอบถามว่า สรุปแล้วใครเป็นผู้ไปทำนิติกรรมซื้อขาย ใครเข้าประชุมบริษัท และใครไปที่กรมที่ดินเพราะในเมื่อ บุคคลทั้ง 3 ปรากฏชื่อเป็นผู้รับซื้อที่ดิน และกู้ยืมเงินจากบริษัทแสนสิริ
บริษัท แสนสิริ มีพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกงนำเงินของประชาชนไปให้กู้ผิดกฎหมาย หลายบท หลายกรรมเรื่องนี้ รอง ผบ.ตร. ต้องทำให้ชัดเจน และเงิน 400 กว่าล้านบาทหายไปไหน หวังว่าตำรวจจะทำเรื่องนี้ให้ปรากฏ
โดยนาย ชูวิทย์ ประกาศว่าในวันที่ 21 ส.ค. ที่จะถึงนี้ ตนจะจัดแถลงข่าวเป็นตอนสุดท้าย และจะเปิดเผยข้อมูลให้เห็นธาตุแท้ของนายทุน
ด้านบิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้จะรับเรื่องไว้ดำเนินการทั้งหมด และจะตรวจสอบทุกกรณี เพื่อจะทำให้ความจริงปรากฏ ต่อสังคมอย่างตรงไปตรงมา จากนี้ก็จะมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด หากพบการกระทำผิดส่วนไหนก็จะดำเนินการในส่วนนั้น