เปิดความหมาย ‘เผาพริกเผาเกลือ’ ที่มาการสาปแช่ง ความเชื่อแต่โบราณ
เปิดความหมาย เผาพริกเผาเกลือ หมายถึงอะไร ความเชื่อการสาปแช่งแต่โบร่ำโบราณ ทำไมต้องเป็นพริกและเกลือ
เชื่อว่าคนไทยหลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อเรื่อง เผาพริกเผาเกลือ กันมาบ้าง โดยวิธีนี้เชื่อว่าจะช่วยให้คำสาปแช่งนั้นได้ผลจริง แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมต้องใช้พริกและเกลือ ที่บอกต่อกันมาว่าได้ผล สรุปแล้ววิธีนี้ได้ผลจริงหรือเปล่า และความเชื่อนี้มีที่มาจากไหน มาตามขุดคุ้ยหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความแค้นสุดเผ็ดร้อนนี้ ไปพร้อมกับ Thaiger กันเลย
เผาพริกเผาเกลือ ความเชื่อเรื่องการสาปแช่งด้วยความเผ็ดร้อน
การเผาพริกเผาเกลือ เชื่อว่าเป็นวิธีในการสาปแช่งคนที่เราเกลียด หรือไม่ชอบหน้า ในประเทศไทย การเผาพริกเผาเกลือเริ่มต้นเมื่อใดไม่ปรากฏชัดนัก แต่ความเชื่อนี้ถูกกล่าวถึงและส่งต่อกันมาตั้งแต่โบราณแล้ว โดยเชื่อกันว่าไทยได้รับอิทธิพลมาจากฮินดู
เนื่องจากมีตำราพิชัยสงครามฮินดูโบราณ กล่าวถึงการสาปแช่งด้วยการเผาเกลือสาปแช่งคนที่ทำให้เรารู้สึกโกรธแค้นเอาไว้อยู่ วิธีการคือ หากรู้สึกโกรธแค้นใคร ให้หยิบเกลือมาหนึ่งกำมือ
หากเป็นเวลาเช้าให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก หรือทิศบูรพา จากนั้นให้กล่าวคำสาปแช่ง คำสบถ คำด่า ถึงผู้ที่เราโกรธแค้นให้พอใจ เมื่อกล่าวจบให้ราดน้ำลงบนเกลือนั้น เปรียบว่าเราได้ทำให้ผู้ที่เราแค้นนั้น ฉิบหายและมลายไปเหมือนเม็ดเกลือที่ละลายน้ำแล้ว
หากเป็นเวลาเย็น ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก หรือทิศประจิม แล้วกระทำการเช่นเดียวกันคือ หยิบเกลือมาหนึ่งกำมือแล้วสบถด่าคำสาปแช่งออกมาให้หมด แต่เปลี่ยนจากราดน้ำ เป็นสาดเกลือกำมือนั้นเข้ากองไฟแทน อธิษฐานตั้งจิตให้คนผู้นั้นปะทุและแตกสลายราวกับเม็ดเหลือที่ถูกสาดเข้ากองไฟ
เมื่อความเชื่อถูกส่งต่อมาถึงประเทศไทย กลับกลายสภาพเป็นการเผาพริกเผาเกลือระหว่างกล่าวคำสาปแช่งแทน เพราะเชื่อว่าพริกที่มีรสเผ็ดร้อน เข้าหูเข้าตาก็มีแต่จะทำให้ระคายเคืองและรู้สึกแสบนั้น จะเป็นการสาปแช่งศัตรูให้รู้สึกทุรนทุราย ทั้งปวดแสบและปวดร้อนดั่งโดนไฟคลอกนั่นเอง
สรุปได้ว่า การเผาพริกเผาเกลือ หมายถึง การสาปแช่งโดยหวังให้ศัตรูที่เรารู้สึกโกรธหรือมีความพยาบาทต่อเขาได้รับความเจ็บปวดทรมาน และเชื่อว่าการเผาไปแช่งไปจะทำให้คำแช่งนั้นเป็นจริง
โดยในประเทศไทยได้รับอิทธิพลมาจากฮินดู ซึ่งสาปแช่งด้วยเกลือ แต่เมื่อเข้ามาสู่ประเทศไทย ก็ปรับเปลี่ยนเป็นการเผาพริกและเกลือ นอกจากนี้ยังมีการนำคำว่า เผาพลิกเผาเกลือ มาใช้เป็นสำนวนไทยอีกด้วย
แต่อย่าลืมว่าการสาปแช่งนั้นไม่ต่างอะไรกับการจองเวรกัน เมื่อเราเผาพริกและเกลือสาปแช่งผู้อื่น เราเองก็ต้องโดนความแสบร้อนจากเปลวไฟและพริกที่โดนเผาไปด้วย
ดังนั้นทางพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือ จึงมีคำสอนว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร อย่าโกรธหรือเกลียดใครจนทำให้ใจเรามีแต่ความพยาบาทเป็นระยะเวลานานน่าจะเป็นผลดีกับเรามากกว่า ถ้าพอจะอโหสิกรรมให้ผู้อื่นได้ คนที่ใจสงบใจสบายมากที่สุดก็คือตัวเรานั่นเอง
ลองเปลี่ยนจากเผาพริกเผาเกลือไปหาผลไม้มาจิ้มพริกเกลือกันดู เผื่อว่าท้องอิ่ม ลิ้นได้สัมผัสความอร่อยแล้ว ความโกรธในใจจะได้ลดลงไปด้วย
แต่ถ้าถึงขั้นสุดจะทนจริง ๆ ก็ลองไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการตัดคน ๆ นั้นออกจากชีวิต หรือใช้ชีวิตของเราให้ดี เพราะการที่เรามีชีวิตที่ดีได้ ถือเป็นการแก้แค้นที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเช่นกัน
ที่มา : Museum Siam