‘เตรียมพัฒน์’ แจงปม ‘หยก’ เยาวชน 15 เผยสาเหตุไม่รองรับเป็นนักเรียน
ฟังอีกมุม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แจงสาเหตุ หยก เยาวชน 15 และผู้ต้องหาคดี ม.112 ถึงสาเหตุไม่รองรับเป็นนักเรียน
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ หยก เยาวชน 15 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดี ม.112 อายุน้อยที่สุด ได้โพสต์ข้อความชี้แจงหลังจากที่หยกแจ้งว่าหยกถูกโรงเรียนไล่ออกและได้มีการปีนรั้วเข้าโรงเรียนเพื่อเข้าไปเรียนกับเพื่อนตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
โดยทางโรงเรียนระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า “ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามสื่อต่างq และช่องทางโซเชียลมีเดียนั้น คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียน สมาคมนักเรียนเก่า ชมรมครูเก่า เครือข่ายผู้ปกครอง รวมถึงสภานักเรียน ขอแถลงการณ์ ดังนี้
1.หยก สำเร็จการศึกษาชั้น ม.3 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมาย วันที่ 1 เม.ย.2566 มารดาของหยก มาบันทึกขอเลื่อนการมอบตัวเพื่อศึกษาต่อระดับชั้น ม.4
ต่อมาวันที่ 19 พ.ค. 2566 โรงเรียนได้รับรายงานตัวหยกไว้ก่อน เพื่อรักษาสิทธิ์ในการศึกษาต่อ (หลังจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้นาปรานี จ.นครปฐม ได้ปล่อยตัวในคดี ม.112)
ซึ่งในการรายงานตัวดังกล่าวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการมอบตัวตามประกาศการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ซึ่งโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนเข้าเรียนก่อน และเน้นย้ำให้นำผู้ปกครอง (มารดา) มามอบตัวนักเรียนให้สมบูรณ์ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่โรงเรียนจะต้องยืนยันข้อมูลจำนวนนักเรียนในระบบ DMC ของกระทรวงศึกษาธิการ
แต่นักเรียนไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบ จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปีการศึกษา 2566
2.หลังจากหยก เข้าเรียนในวันที่ 22 พ.ค. 2566 โรงเรียนได้ชี้แจงให้รับทราบระเบียบแนวปฏิบัติตามคู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ที่ผ่านการประชาพิจารณ์โดยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และนักเรียนทุกคนได้ปฏิบัติตามระเบียบนี้ แต่หยก ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ไม่แต่งกายชุดนักเรียน การทำสีผม การมาเรียนตามเวลา/รายวิชาตามความพอใจของนักเรียน รวมทั้งขอไม่เข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธง และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการไม่ยอมรับกฎระเบียบและไม่เข้าสู่กระบวนการของโรงเรียน
3.โรงเรียนขอเน้นย้ำให้ทราบว่า ไม่เคยปฏิเสธการรับนักเรียนเข้าเรียน และได้ให้การดูแลตามระบบ ดูแลการช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ถึงแม้นักเรียนไม่ได้ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงพฤติกรรม ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น