ย้อนรอยความรักของ เลสลี่จาง นักร้องและนักแสดงเจ้าบทบาทชาวฮ่องกง LGBTQ+ ผู้ทำตามหัวใจตนเอง กับรักครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา แดฟฟี่ ถ่ง
หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อของ เลสลี่ จาง มาก่อน แม้ว่านักแสดง LGBTQ+ ชาวฮ่องกงคนนี้จะลาโลกไปนานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าครั้งหนึ่ง โลกของเราเคยมีคนดังมากความสามารถอย่างเขา ผู้ที่กล้ายอมรับตนเองว่าเป็นใคร โดยไม่กลัวว่าสังคมจะไม่ยอมรับ วันนี้ทีมงาน Thaiger จะพาทุกคนไปรู้จักชีวิตในอดีต ย้อนรอยความรักของ เลสลี่ จาง คนนี้กัน
ย้อนรอยความรัก ประวัติ เลสลี่ จาง ดาวค้างฟ้าผู้ล่วงลับแห่งเกาะฮ่องกง
เลสลี่ จาง หรือ จาง กั๋วหรง ซูเปอร์สตาร์แห่งเอเชียจากฮ่องกง เขาเป็นทั้งนักร้องและนักแสดง นอกจากนี้เลสลี่ยังถือเป็นคนดังคนแรก ๆ ในโซนเอเชียที่กล้าประกาศตัวว่าเขาเป็นไบเซ็กชวล
ย้อนไปในวัยเด็กของเลสลี่ เขาเป็นคนหนึ่งที่โตมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่นนัก แม้ว่าครอบครัวจะมีฐานะแต่เลสลี่ก็มักจะถูกทิ้งให้แม่บ้านเลี้ยงเสมอ จนเรียกได้ว่าเขาสนิทกับแม่บ้านมากกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำไป
ในวัยเด็กเลสลี่เป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งนัก จึงถูกให้ย้ายโรงเรียนบ่อยครั้ง จนมีโอกาสได้ไปเจอเพื่อนวัยเด็กชื่อ แดฟฟี่ ถ่ง ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าในอนาคต แดฟฟี่จะกลายมาเป็นคนรักของเลสลี่
ต่อมาเลสลี่และแดฟฟี่ก็ต้องแยกกัน เนื่องจากเลสลี่ถูกส่งให้ไปเรียนโรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน การไปเรียนที่นั่นทำให้เลสลี่ค้นพบว่าตนเองมีความสามารถในการร้องเพลง แต่แล้วกลับมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เลสลี่ถูกส่งตัวกลับมาที่ฮ่องกงอีกครั้ง
ก่อนที่เลสลี่จะมีโอกาสกลับมาเจอแดฟฟี่โดยบังเอิญอีกครั้งในปลายปี 1982 ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มออกเดตและคบกันในปี 1983 ซึ่งในช่วงนั้นการคบคนที่มีเพศสภาพเดียวกันยังเป็นที่ยอมรับ อีกทั้งเลสลี่เริ่มเข้าสู่วงการและกลายเป็นคนมีชื่อเสียง ทำให้เลสลี่และแดฟฟี่ต้องคบกันอย่างไม่เปิดเผย
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1997 เลสลี่ได้ประกาศว่าเขาเป็นไบเซ็กชวล และเปิดเผยความสัมพันธ์ของเขากับแดฟฟี่ออกสื่อในที่สุด แม้ว่าก่อนหน้านี้เลสลี่จะเคยคบหาดูใจกับ เหมา ซุ่นหวิน แฟนสาว จนถึงขั้นขอแต่งงานก็ตาม
แดฟฟี่และเลสลี่ยังคบหากันเรื่อยมา ก่อนที่จะเกิดเหตุช็อกโลกในวันที่ 1 เมษายน 2003 เมื่อเลสลี่ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ด้วยการกระโดดตึกจากชั้น 24 ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนทัล
โดยจดหมายที่เลสลี่เขียนไว้ก่อนเสียชีวิต เขาได้กล่าวขอบคุณจิตแพทย์ผู้รักษาอาการซึมเศร้าของเขา รวมถึงเพื่อน ๆ ครอบครัว และ “ถงถง” หรือแดฟฟี่ แฟนหนุ่มของเขา
ก่อนจะปิดท้ายว่าเนื้อความในจดหมายอย่างน่าเศร้าว่า “ในชีวิตผมไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายอะไรเลย แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้” คาดว่าอาการซึมเศร้าที่เลสลี่เป็นอยู่ น่าจะเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การตัดสินใจฆ่าตัวตายของเขา
สำหรับประวัติส่วนตัวของเลสลี่ จาง เขาเกิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1956 โดยมีชื่อตั้งแต่แรกเกิดว่า จาง ฟะฉุง เลสลี่เกิดมาในครอบครัวมีอันจะกินของช่างตัดสูท โดยเขาเป็นลูกคนสุดท้องของบรรดาพี่น้องทั้งหมด 10 คน
ต่อมาในปี ค.ศ. 1977 เลสลี่ได้เข้าประกวดร้องเพลง ด้วยเพลงดังอย่าง American Pire และเวทีนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่พาให้เขาได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิง แต่เขากลับโด่งดังในเส้นทางของนักแสดงมากกว่า โดยเลสลี่เริ่มต้นจากการแสดงละครโทรทัศน์ ก่อนจะเริ่มได้เล่นภาพยนตร์และกลายมาเป็นนักร้องด้วยในภายหลัง
โดยผลงานภาพยนตร์ดังที่เลสลี่ได้ฝากผลงานไว้ เช่น โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า (1987), โหด เลว ดี (1986), หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม (1993) รวมถึงผลงานของผู้กำกับชื่อดังอย่าง หว่อง กาไว ในเรื่อง Happy Together โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา (1997) และ วันที่หัวใจกล้าตัดเส้นขอบฟ้า (1991)
นอกจากนี้เลสลี่ยังเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในหมู่แฟนคลับชาวไทยเป็นอย่างมากจากละครเรื่อง กระบี่กระชากวิญญาณ จนถึงกับได้มาแสดงคอนเสิร์ตที่โรงแรมมณเฑียร ในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี ค.ศ. 1982 เลยทีเดียว
เลสลี่เสียชีวิตด้วยอายุ 47 ปี ในปี 2003 และในเวลานั้นเขายังคงคบหาดูใจกับ แดฟฟี่ ถ่ง อยู่ ทำให้ถือว่าแดฟฟี่เป็นคนรักคนสุดท้ายในชีวิตของเลสลี่อีกด้วย
จวบจนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ เลสลี่ จาง จากไป แต่ผลงานและชื่อเสียงของเขาจะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดไป ในฐานะ เลสลี่ จาง ซูเปอร์สตาร์ไบเซ็กชวลจากฮ่องกง ผู้ที่กล้ายอมรับในสิ่งที่เขาเป็นตั้งแต่วันที่โลกยังไม่ยอมรับ
