ท่องเที่ยว

‘วัดสุทัศนเทพวราราม’ สักการะพระกลักฝิ่น ถอนคําสาบานรักเก่า ปรับทิศทางชีวิต

ชวนรู้จัก วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดสุทัศน์ พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ตั้งอยู่ในเขตพระนครชั้นใน แขวงเสาชิงช้า ซึ่งมีประดิษฐานพระกลักฝิ่น พระพุทธรูปทรงสร้างที่ใครหลายคนต่างต้องมาขอขมากรรม ถอนคำสาบาน

ประวัติ วัดสุทัศนเทพวราราม อารามหลวงชั้นเอก ประจำรัชกาลที่ 8

วัดสุทัศนเทพวราราม สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2350 – 2351 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” ต่อมาได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของ พระศรีศากยมุนี หรือ พระโต พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์พระร่วงของยุคสุโขทัยที่อันเชิญมาจาก พระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ทว่าพระวิหารยังไม่ทันสร้างเสร็จก็สิ้นรัชกาลเสียก่อน

Advertisements

หลังจากสิ้นรัชกาลที่ 1 วัดแห่งนี้ก็ได้มีการสร้างต่อเติมเรื่อยมา จนกระทั่งแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และทรงโปรดให้สร้างพระอุโบสถ ศาลากาลเปรียญ สัตตมหาสถาน และกุฏิสำนักสงฆ์เพื่อประดิษฐานสังฆาราม หลังจากนั้นจึงได้พระราชานนามว่า วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร จนถึงปัจจุบัน

วัดสุทัศน์ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญมาก และเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์สำคัญของไทยถึง 3 องค์ ได้แก่ พระศรีศากยมุนี พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และพระพุทธเสรฏฐมุนี หรือพระกลักฝิ่น พระพุทธรูปที่หล่อมาจากกลักฝิ่น หนึ่งเดียวในประเทศไทย

วัดสุทัศน์ อารามหลวงประจำรัชกาลที่ 8
ภาพจาก Facebook Page : วัดสุทัศนเทพวราราม Wat Suthat

วัดสุทัศนเทพวราราม กับตำนานพระกลักฝิ่น

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงต้องการบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อส่งเสริมพสกนิกรให้เป็นพลเมืองดี มีศีลธรรม มีความรู้และสติปัญญา ซึ่งขณะนั้นมีชาวต่างชาตินำฝิ่นเข้ามาในสยามเป็นจำนวนมาก และฝิ่นจัดอยู่ในสิ่งเสพติดต้องห้าม จึงมีพระราชโองการปราบฝิ่นขึ้นอย่างเคร่งครัด

จากพระราชโองการปราบฝิ่น ทำให้มีการล้างฝิ่นครั้งใหญ่ใน พ.ศ.2382 มีทั้งฝิ่นดิบและฝิ่นสุก รวมทั้งสิ้นแล้วมากถึง 222,120 กิโลกรัม และถูกนำมาเผารวมกันที่สนามชัย หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท การกวาดล้างครั้งนี้ถือเป็นการกวาดล้างฝิ่นครั้งใหญ่ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดมา

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2382 รัชกาลที่ 3 ทรงนำกลักฝิ่นจำนวนมากหล่อเป็นพระพุทธปฏิมาร ณ โรงหล่อของหลวงในพระบรมราชวัง อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ศาลาการเปรียญ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร เมื่อแรกผู้คนเรียกว่า “พระกลักฝิ่น” ในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุณี”

Advertisements

หากสงสัยว่าเหตุใดสารเสพติดชนิดนี้ถึงได้ถูกนำมาสร้างเป็นพระพุทธรูปที่เสมือนเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า นักประวัติศาสตร์ได้มีการสันนิษฐานว่า คงเป็นกุศโลบายของรัชกาลที่ 3 ที่ต้องการให้โอกาสผู้คนที่เคยหลงผิด เสพติดฝิ่นได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี หันหน้าเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์เช่นเดียวกับสารประกอบสร้างในพระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนาอีกด้วย

ดังนั้น หากใครที่เคยทำผิด อยากจะสารภาพบาป ขออโหสิกรรม ขอขมากรรม หรือถอนคำสาบาน สามารถไปตั้งจิต ขอขมากรรมต่อองค์พระกลักฝิ่นได้ เพราะก่อนที่ท่านจะมาเป็นองค์พระให้กราบไหว้ ท่านก็เป็นสิ่งผิดกฎหมายมาก่อน เสมือนคนที่ทำผิดและคิดกลับตัวนั่นเอง

วัดสุทัศนเทพวราราม
ภาพจาก : ศูนย์ข้อมูลเกาะรัตนโกสินทร์

สิ่งที่ต้องเตรียมในการถอนคำอธิฐาน ถอนคำสาบานรักเก่า

การขอขมากรรม ตัดกรรม หรือถอนคำบนบานสารกล่าวนั้น มีสิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อทำพิธี โดยสามารถเตรียมได้เองจากที่บ้าน แต่หากท่านหาซื้อไม่ได้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะทางวัดสุทัศน์ได้มีให้บริการชุดละ 50 บาท ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมในการขอขมากรรม ถอนคำสาบาน มีดังนี้

  • ธูป 5 ดอก
  • เทียนขาวเล็ก 5 เล่ม
  • ดอกไม้ 5 ดอก
  • เงิน 5 บาท
ถอนคำสาบาน ขอขมากรรม ที่วัดสุทัศน์ เตรียมอะไรบ้าง
ภาพจาก : amazing thailand

บทสวดบูชาองค์พระกลักฝิ่น วัดสุทัศน์

“อิมัง มิฉา อธิฐานัง ปันจะทะธาราปิ

ทุติยัมปิ อิมัง มิฉา อธิฐานัง ปันจะทะธาราปิ

ตะติยัมปิ อิมัง มิฉา อธิฐานัง ปันจะทะธาราปิ

ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิฐาน ถอนคำสาปแช่ง คำบนบานที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นพร้อมด้วยกิเลส ด้วยตัณหา ด้วยอุปทาน ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ ด้วยมานะ ด้วยมิจฉาทิฐิ เป็นไปเพื่อความพยายาม เพื่อเบียดเบียน สร้างเวรสร้างกรรม ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วยวินัย ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้อธิฐานไว้ สาปแช่งไว้ ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี

ลูกขออำนาจพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระรัตนตรัยและเทพพรหมทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นบาดาล แม่พระธรณีได้โปรดเป็นสักขีพยาน ในการที่ลูกขอถอนคำอธิฐานเหล่านั้น ถอนคำแช่ง ถอนคำสาป ถอนคำสาบาน ถอนคำสัญญา ร้อยหน พันหน ณ กาลบัดนี้เทอญ”

ตั้งจิตให้แน่วแน่ จากนั้นกล่าวคาถาต่อ

“นะถอน โมถอน พุทธถอน ทาถอน ยะถอน นะคลอน โมคลอน พุทธคลอน ทาคลอน ยะคลอน ถอนด้วย นะโมพุทธายะ นะมามิยัง”

“ณ กาลบัดนี้ข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อ…นามสกุล…วัน เดือน ปี เกิด) ขอถือเพลานี้ ขออโหสิกรรม ต่อเจ้ากรรมนายเวร ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินเบียดเบียนท่าน ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทำให้ท่านเจ้ากรรม นายเวรทุกท่านเป็นทุก จะระลึกได้หรือไม่ก็ตามที บัดนี้ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดแล้ว ขอท่านเจ้ากรรม นายเวรทุกท่านโปรดเมตตา อโหสิกรรมต่อกัน นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าจะสร้างกุศล หมั่นบำเพ็ญบารมีอุทิศต่อเจ้ากรรม นายเวรทุกท่าน ขอทุกท่านจงน้อมรับอนุโมทนา สาธุการ และอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วยเทอญ”

วัดสุทัศนเทพวราราม ถอนคำสาบานคนรักเก่า
ภาพจาก Facebook Page : วัดสุทัศนเทพวราราม Wat Suthat

การเดินทางไปถอนคำสาบาน วัดสุทัศนเทพวราราม

วัดสุทัศนเทพวราราม ตั้งอยู่ในบริเวณถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) ลงสถานีสามยอด ทางออก 3 จากนั้นเดินมาประมาณ 600 เมตร

  • ที่อยู่ : 146 ถนนบำรุงเมือง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/DMXB1iZ8hxpHn2dK8
  • เปิดให้เข้าชม : 08.30 – 21.00 น.
  • โทร. : 0-2622-2819

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button