เกิดเหตุ หลวงตายิงหลวงพ่อ ภายในวัดราษฎร์สามัคคี เป็นเหตุให้หลวงพ่อได้รับบาดเจ็บ เผยปมแค้นที่นำไปสู่เหตุอุกอาจในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากลาง ได้ควบคุมตัว พระลูกวัดวัยชรากระหน่ำยิงพระลูกวัดเดียวกัน ที่วัดราษฎร์สามัคคี ในตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู จนได้รับบาดเจ็บ ที่สะโพกและขาหนีบ หลังจากที่พระทั้งสองรูปมีปัญหาเรื่องลำดับที่นั่งเวลาเข้าพิธี
จากการสอบสวนทำให้ทราบว่าเวลาประมาณ 13.30 น. พระวันดี เพียภูเขียว อายุ 74 ปี พระลูกวัดราษฎร์สามัคคี ใช้ปืนลูกโม่ขนาด .32 มม. ยี่ห้อ astra บรรจุกระสุนได้ 6 นัด กระหน่ำยิง พระวีระพงษ์ อาษานาม อายุ 57 ปี พระลูกวัดเดียวกัน จำนวน 6 นัด แต่กระสุนด้าน 1 นัด ผู้บาดเจ็บได้รับการส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนากลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวพระวันดี หลังจากได้รับแจ้งเหตุ
เบื้องต้นพระวันดีให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเล่าว่า อาวุธปืนเป็นของพี่ชายที่อำเภอภูเขียว จังหวัดขอนแก่น โดยเก็บรักษาติดตัวไว้ กว่า 20 ปี โดยเล่าว่าวันเกิดเหตุมีเรื่องกระทบกระทั่งกัน ขณะฉันเพล เมื่อกลับมาถึงกุฏิ เห็นพระวีระพงษ์คู่อริเดินมาใกล้ๆ จึงใช้ปืนยิงถล่มใส่พระวีระพงษ์จนหมดโม่ แต่เนื่องจากกระสุนเก่า จึงมีกระสุนด้าน 1 นัด
ภายหลังก่อเหตุแล้วก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน นั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ในกุฏิ เจ้าหน้าที่นำตัวพระวันดีไปลาสิกขาบทจากเจ้าอาวาส แล้วนำมาชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนจะควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.นากลาง ต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า สาเหตุของการทะเลาะกันเนื่องจากพระลูกวัดทั้งสองรูปนี้ไม่ถูกกันมาเป็นเวลานานแล้ว สาเหตุหลักๆ ก็คือ พระวันดีวัยสูงกว่า 74 ปี แต่บวชหลังพระวีระพงษ์ที่มีอายุเพียง 57 ปี จึงทำให้พรรษาน้อยกว่า แม้จะวัยสูงกว่าก็ตาม และมักจะเขม่นกันในเรื่องลำดับที่นั่งเวลาเข้าพิธี วันเกิดเหตุทั้งสองไปร่วมฉันเพล และเกิดการกระทบกระทั่งกัน
พระวันดี กล่าวว่า พระวีระพงษ์ เจตนานำสิ่งของมาวางเบียดตน เมื่อหันไปมองก็ถูกต่อว่า ว่ามองอะไร หลังเสร็จพิธีกลับมาถึงกุฏิ พระวันดี ซึ่งเก็บความแค้นไว้ช้านาน จึงคว้าปืนที่อยู่ในกุฏิออกไปยิง พระวีระพงษ์ เดชะบุญไม่ถูกที่สำคัญ จึงทำให้ พระวีระพงษ์ รอดตายหวุดหวิด
