พาย้อนรอย 8 ฆาตกรต่อเนื่องจากคดีฆาตกรรมสุดผวาในประเทศไทย เตือนภัยอันตรายใจโหดผิดมนุษย์ ทั้งฆาตกรรมอำพราง ปล้นชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย
จากกรณีประเด็นข่าวล่าสุดที่ “แอม” นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ในคดีวางแผนฆ่าโดยใช้ ไซยาไนด์เป็นยาพิษในแผนการฆาตกรรม ปมสาเหตุคาดปลดหนี้วงแชร์ หลังเหตุการตายปริศนาของเพื่อนสนิทขณะไปทำบุญด้วยกัน เบาะแสสืบพบคนรอบตัวมีการเสียชีวิตลักษณะคล้ายกันมากกว่า 10 ศพ วันนี้ทีมงาน Thaiger จึงจะขอพาผู้อ่านย้อนเวลาไปศึกษาปรวัติศาสตร์อาชญากรรมกับ 8 คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ในประเทศไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช็กประวัติศาสตร์คดีสะเทือนขวัญคนไทยได้แล้วที่นี่
1. คดีไอซ์ “หีบเหล็ก” ฆาตกรรมยัดหีบ
ในปี 2562 ช่วงเดินตุลาคม ตำรวจได้เข้าจับกุมนาย นายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ ไอซ์ จากเหตุฆาตกรรมผู้หญิงบริการรายหนึ่งหลังจากเรียกมาใช้บริการ นายไอซ์ได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.กุ๊กกิ๊ก ด้วยการใช้ของแข็งทุบไปที่ศีรษะจนหมดสติ น.ส.กุ๊กกิ๊กยังไม่ตาย แต่นายไอซ์ อุ้มร่างกุ๊กกิ๊กยัดใส่หีบสังกะสีขนาด 40×80 เซนติเมตร จับอวัยวะทุกส่วนงอเข้าไปจนยัดลงไปในหีบได้ จากนั้นก็ล็อกกุญแจไม่ให้ น.ส.กุ๊กกิ๊กออกมาได้
สุดท้ายเป็นเวลาหลายชั่วโมง เธอก็ขาดอากาศหายใจตายอย่างทรมาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระดูกมนุษย์ถึง 326 ชิ้น บริเวณบ่อน้ำรอบบ้าน ร่างผู้เสียชีวิตรายหนึ่งถูกผ้าห่อศพห่อหนึ่งชั้น แล้วมัดไว้กับดัมเบล และโซ่เพื่อถ่วงน้ำ และหีบเหล็กที่ใส่ชิ้นส่วนมนุษย์จำนวนมาก เพิ่มเติมอีก 2 ศพ คือศพในห่อผ้าที่ถูกวงกบทับเอาไว้ใต้น้ำ และอีกศพคือ ศพในหีบเหล็กอีกใบที่อยู่ในสภาพผุพัง
2. คดีไอ้บังจิมมี่ สังหารอำมหิต
เหตุการณ์สยอง พบศพ 3 ศพ ติดกันในเดือน ตุลาคม ปี 2559 ชายเร่ร่อนสติไม่ดีชื่อ นายจิมมี่ ชายชาวพม่า อายุ 20 ปี ที่ได้ก่อเหตุสังหารโหดอำมหิต ศพแรกนายศุภร อายุ 25 ปี ศพสอง นางสุภาพรรณ อายุ 38 ปี พบจมน้ำในคลอง ทั้ง 2 ศพ ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยสายไฟและใช้มีดแทงตามร่างกาย ทั้ง 2 ศพ ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยสายไฟและใช้มีดแทงตามร่างกาย และศพที่สาม ถูกมัดมือไพล่หลังและใช้มีดเชือดคอ เบาะแสการจับกุมสืบจากผลการตรวจดีเอ็นเอนั้นตรงกับของคนร้ายในที่เกิดเหตุ
3. คดีหนุ่ย ขุนเดช ฆาตกรรมปิดปาก
หนุ่ย, ขุนเดช หรือรู้จักในนาม ติ๊งต่าง ชาวชาวพม่า คนร้ายที่ก่อคดีข่มขืน 10 ราย และฆาตกรรมเด็ก 4 ราย หนุ่ยนั้นมีพฤติกรรมชอบล่อลวงทั้งเด็กชายและหญิงเข้าไปข่มขืนแล้วฆ่าปิดปากโดยการบีบคอ มีบางรายที่รอดชีวิตกลับไป อดีตหนุ่ยนั้นเคยติดคดีพยายามทำอนาจารเด็กผู้หญิงในปี 2551 มาแล้ว หลังพ้นโทษได้ก่อคดีตั้งแต่ปี 2555-2556 ฆาตกรรมและข่มขืนขืนต่อเนื่อง ต่อกันมา โดยที่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต
4. คดีไอ้หื่นซิกซ์แพก ฆ่าบีบคอ
ไอหื่นซิกซ์แพก คนร้ายคดีฆ่าข่มขืนก่อคดีติดต่อกัน 10 คดี ตั้งแต่ปี 2553-2557 โดยมีเหยื่อเป็นหญิงชราทุกคดี เสียชีวิต 2 จากการต่อสู้ขัดขืน คนร้ายจะบุกเข้าบ้านอยู่อาศัยของเหยื่อแล้วปิดปากข่มขืน หากขัดขืนจะถูกบีบคอทำร้ายร่างกาย ซึ่งกรณีนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตข้างต้น พื้นที่เกิดเหตุนั้นวนเวียนจังหวัดนครปฐม – สมุทรสงคราม
5. คดีฆาตกรรถกระบะ วางยาพิษ
นายนิรุต หรือ จำลอง สอนคำหาร ชายไทย อายุ 45 ปี ได้ก่อเหตุวางแผนฆ่าต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554-2555 โดยที่มีเหยื่อเสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษทั้งหมด 9 คดี ติดกัน โดยจะลวงเหยื่อโดยการเช่ารถกะบะแล้วใส่ยาพิษเครื่องดื่มให้ดื่มเพื่อชิงทรัพย์ จากนั้นนำเหยื่อไปทิ้งข้างทาง มีเหยื่อบางรายรอดชีวิต สุดท้ายหลังถูกจับขัง นายนิรุตได้ผูกคอฆ่าตัวตายในห้องขังช่วงระหว่างรอการดำเนินคดีเพื่อหนีความผิด
6. คดีคิดเดอะริปเปอร์ บีบคอกดน้ำ
นายสมคิด พุ่มพวง หรือคิดเดอะริปเปอร์ ผู้ได้ฉายาจากการฆาตกรรมโหด 5 คดี ก่อเหตุในช่วงปี 2548 และ 2562 โดยก่อเหตุสังหารหญิงสาวด้วยการบีบคอและกดน้ำ หลังจากที่พ้นโทษถูกปล่อยตัวในปี 2562 นั้น สมคิดได้ก่อเหตุคดีฆาตกรรมซ้ำในลักษณะบีบคอเช่นเดิม ทำให้ถูกตำรวจเข้าจับกุมดำเนินคดี และจึงถูกศาลตัดสินโทษสูงสุด คือการประหารชีวิต ฉายา คิดเดอะริปเปอร์ นั้นมาจาก แจ็กเดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องเลือดเย็นจากประเทศอังกฤษ เนื่องจากลักษณะการฆ่าที่คล้ายกัน
7. คดีซีอุย ฆาตกรพลัดถิ่น
ซีอุย หรือชื่อจริง หลีอุย แซ่อึ้ง ชายชาวจีนที่ถูกต้องโทษประหารชีวิตจากคดีสังหารเด็กในปี 2501 หลังจากการสืบสวนค้นพบว่า ซีอุยนั้นเคยก่อคดีฆาตกรรมอีกอย่างน้อย 6 คดี โดยที่มีหลายคดีในนั้นที่ศพเหยื่อมีอวัยวะภายในหายไป สื่อจึงนำมาตีข่าวว่าซีอุยนั้นกินอวัยวะของเหยื่อ
พร้อมถ่ายภาพตอนกำลังอ้าปากมาทำประเด็นข่าวต่าง ๆ สุดท้ายซีอุยถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต และนำศพมาดองเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ภายในโรงพยาบาลศิริราชนับแต่นั้นมา พร้อมติดป้าย “ซีอุย มนุษย์กินคน” ต่อมาในปี 2563 ได้มีการเรียกร้องให้ปฏิบัติกับศพของซีอุยอย่างถูกต้อง คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชจึง ร่วมกรมราชทัณฑ์ทำพิธีฌาปนกิจร่างนายซีอุย
8. คดีบุญเพ็งหีบเหล็ก สะบั่นคอประหารชีวิต
บุญเพ็งนั้นเป็นฆาตกรต่อเนื่องในช่วงสมัยของรัชกาลที่ 6 โดยการที่บุญเพ็งก่อเหตุนั้น เกิดจากการที่ตนบวชเป็นภิกษุจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองนนทบุรี แล้วมีความสัมพันธ์กับลูกศิษย์หญิงที่เป็นเศรษฐินี ทั้งหมด 7 ศพ เหตุเกิดจากความโลภ โดยที่หลังจากฆ่าเสร็จ บุญเพ็งจะนำศพมาใส่ในหีบเหล็กแล้วถ่วงน้ำ จึงเป็นที่มาของฉายา บุญเพ็งหีบเหล็ก บุญเพ็งนั้นเป็นนักโทษคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ที่ถูกประหารชีวิตด้วยการบั่นคอ
โดยที่มีข่าวลืมที่ว่าบุญเพ็งนั้นมีความแก่กล้าในคาถาอาคมจนเพชรฆาตไม่สามารถตัดคอได้ แต่สุดท้ายแล้วหลังจากเสียชีวิต ได้มีการศพฝังอยู่ที่ป่าช้า ซึ่งปัจจุบันมีศาลบูชาบุญเพ็ง ซึ่งบุคคลในวัดจะเรียกบุญเพ็งว่า “ลุงบุญเพ็ง” และยังเชื่อว่าหีบเหล็กทั้ง 7 ใบนั้น ถูกฝังอยู่ใต้ศาลที่วัด
