โหนกระแส คดีแอม เปิดหลักฐานใหม่วันวางยา “บิ๊กโจ๊ก” เผยดับแล้ว 12 ศพ
รายการโหนกระแส คดีแอม วางยาไซยาไนด์ ท้าวแชร์สาวกาญจนบุรีจนเสียชีวิตคาท่าน้ำ ก่อนคดีกลายเป็นฆาตกรรมต่อเนื่องหลังพบเหยื่อดับ สาเหตุการตาย หัวใจวายเฉียบพลัน บิ๊กโจ๊ก โฟนอินอัปเดตล่าสุด พบเหยื่อเสียชีวิตแล้ว 12 ราย กรรชัย ถาม เพื่อนสนิทเหยื่อพร้อมใจเล่าทำอึ้งหนัก ปริศนาเพียบ หลายคนเอี่ยววงแชร์
วันที่ 26 เมษายน 2566 รายการโหนกระแส “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย พาตามต่อกับคดีดังซึ่งกำลังเป็นที่จับตาของสังคม กรณี “แอม” สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ อดีตภรรยานายตำรวจระดับ รอง ผกก. ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาคดีวางยาไซยาไนด์ ฆาตกรรมเหยื่อต่อเนื่อง ที่ตอนนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ราย
เริ่มมาในรายการ คุณดล เพื่อนสนิทของ “แด้” สุทธิศักดิ์ พูลขวัญ ผู้เสียชีวิตเหยื่ออีกรายที่ถูกเปิดเผยข้อมูลหลังข่าวการเสียชีวิตของ ก้อย นางสาวสาวศิริพร ขันวงษ์ ท้าวแชร์คนกาญจนบุรี อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลันที่ท่าน้ำ อ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
โดยเพื่อนสนิทของเหยื่อเริ่มเล่าว่า “แด้” เพื่อนตัวเองนั้นตั้งใจจะดูแล “แอม” มาก ปกติเพื่อนทำงานปล่อยเงินกู้ที่อุดรธานี ก่อนเกิดเรื่อง โทรมาบอกจะจัดวันเกิดให้ผู้ต้องหา (แอม) หลังจากนั้น วันที่จะจัดงานช่วงเช้าทั้งคู่พากันไปที่ คำชโนด มีรับประทานข้าว
พอทานกันเสร็จ “แด้” ก็เกิดอาการชักจนพลเมืองดีต้องรีบพาไปโรงพยาบาล ต่อมา นายแด้ รู้สึกตัว โดยในรายการเพื่อนสนิทกล่าวกับ กรรชัย ว่าตอนนั้นแด้น่าจะโดนยาดอกแรกปริมาณไม่มากจึงฟื้นตัว รพ. เพียงวัดความดันแล้วพบว่า ความดันสูง ให้กลับมาที่หอพักก็อาเจียนอีก จากนั้นขึ้นไปนนอนก็ไม่มีใครเห็นแด้อีกเลย กระทั่งมาพบนอนเสียชีวิต
โดยประเด็นกังขานี้ “ดล” เพื่อนแด้ ระบุกับ กรรชัย ชัดเจนว่า ผู้ตายสิ้นลมลงหลังจากฟื้นตัวกลับมาจากที่ไปรพ. ในตอนแรก ให้หลังจากเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายมาจาก หัวใจวายเฉียบพลันซึ่งสาเหตุการตายก็ไปตรงกับ คุณก้อย ที่เป็นข่าวโดนวางยาดับก่อนหน้านี้ และก็มี แอม อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นคนสุดท้ายกับผู้ตายทั้ง 2 เคส
ด้าน อิ๊บ สามีของนางจันทร์รัตน์ เหยื่ออีกรายที่ถูกสงสัยว่าจบชีวิตลง โดยมี “แอม” เข้าไปเกี่ยวกับ อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย คล้ายกับอีกหลายๆ เคสที่มีรายงานก่อนหน้านี้จน รองโจ๊ก พล.ต..อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ต้องมายืนยันด้วยตัวเองว่า คดีแอม นี้เป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง
ตัดภาพกลับมาที่ คุณอิ๊บ ในรายการโหนกระแสวันนี้ สามีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้เปิดข้อมูลซึ่งก็ยังคงยืนยันคำพูดเดิมว่า ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของ ก้อย ซึ่งก็คือ นางสาวแอม สรารัตน์ นั้น เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับภรรยาตน ก่อนลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง
ทั้งนี้ เมื่อฝ่ายสามีผู้ตายถูกซักถามถึง ที่มาที่ไปเจ้าตัวก็เล่าต่อว่า วันเกิดเหตุสลดตนเองไม่ทราบว่าภรรยาจะเดินทางไปไหน แต่เพื่อนบ้านเห็น “จุ๋ม” (ชื่อเล่นภรรยาคุณอิ๊บ) ออกไปตอน 9 โมง มีการบอกเพื่อนบ้านว่าได้นัดเจอเพื่อนที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายชายพักเที่ยงจากที่ทำงานแล้วกลับมายังที่พัก ซึ่งเป็นปกติที่จะมากินข้าวเที่ยงกับภรรยา คุณจันทร์รัตน์ โดยเวลาตอนนั้น คุณอิ๊บระบุว่ากลับมาที่บ้านประมาณ 10-11 โมง ตนเองตะโกนเรียกที่รักมีอะไรกิน ? แต่พอเปิดประตูก็ต้องพบกับภาพสุดหดหู่ เมียตัวเองนอนสิ้นลมไปแล้ว
นอกจากนี้ช่วงท้ายรายการยังมีคลิปเสียงสนทนาคล้ายจะเป็นน้ำเสียงของหญิงสาวกำลังพูดคุยกับชายรายหนึ่ง โดยเนื้อหาที่จับใจความได้คร่าวๆ จะได้ยินว่า
“เดี๊ยวพี่แอมส่งหนูเสร็จ ไม่ต้องรู้หรอก แล้วที่หนูไม่บอก คนตายไปละ ทุกคนที่เห็นญาติก็ต้องรู้ว่าเป็นยังไง แล้ว 13 หนู (ไปอยู่แถวหนองบัว) แอม กลัวเรื่องรถที่สุด เรื่องรถเราไม่ได้ไปลักขโมยมาไม่เป็นไรหรอก แล้วที่ว่าหนูไม่ช่วยๆ ไม่ใช่-ไม่ช่วย”
“พอมันล้มแล้ว มาตามคน หนูขึ้นมาถึงบันได เจอแม่ลูก ถามมียาดมไหม ช่วงวิ่งนั้นคือหนูวิ่งไปตม คน ช่วงที่เดิิน คือ หนูไปเดินหาห้องน้ำ” ประโยคสนทนาจากคลิปเสียงที่เปิดในรายการของกรรชัย
บิ๊กโจ๊ก โฟนอินด่วน เผยล่าสุดพบเหยื่อดับแล้ว 12 ราย
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งขณะที่รายกาเปิดคลิปเสียงปรศนาจบไม่นาน หนุ่ม กรรชัย ก็กล่าวแทรกโดยเป็นการขออนุญาตคนดู฿ ว่า เวลานี้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อยู่ในสาย โฟนอินด่วนเข้ามาเปิดเผยความคืบหน้าทางคดี
ที่ล่าสุด คดีนี้พบเหยื่อผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ศพ โดยศพที่พบเพิ่มเติมวันนี้ 2 ราย พบในพื้นที่ อำเภอดอนตูมและที่จังหวัดนครปฐม รวมตอนนี้เป็น 12 ศพแล้ว และยังมีผู้เสียหายอีกรายที่รอดชีวิต มาเล่าถึงพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ ทำให้ทราบแล้วว่า แอม วางยาจริง อีกทั้งข้อมูลจากแพทย์ก็ช่วยตอกย้ำพฤติกรรมอำมหิต
ส่วนศพถึงแม้จะมีการเผาไปแล้ว “รองโจ๊ก” กล่าวว่า ตรงนี้สามารถสอบหมอเพิ่มเติมได้ ศพที่ไม่มีผ่าพิสูจน์ก็จำเป็นต้อง สืบหาและรวบรวมหลักฐานจากพยานแวดล้อม วันศุกร์นี้จะนำข้อมูลจากทุกส่วนมาผนึกเข้าด้วยกันแล้วขยายผลหาความเชื่อมโยงเพื่อที่จะดูต่ว่าต้องออกหมายจับใครพิ่มเติมบ้าง
โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนกรานชัดเจนว่า คดีนี้สามารเอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน 100% และตำรวจก็ได้ขอคัดค้านการประกันตัวไว้แล้ว.
รับชมเทปรายการ โหนกระแส คลิกที่นี่