รีวิว Duty After School ซีรีส์แอคชั่น-ไซไฟ สัญชาติเกาหลีสุดมันส์ สร้างจาก Naver Webtoon ในชื่อเดียวกัน (ภาษาไทยชื่อว่า สมรภูมิหลังเลิกเรียน) บอกเล่าเรื่องราวของเด็กมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในประเทศเกาหลีที่ต้อง “ถือปืนแทนปากกา สู้กับสัตว์ประหลาดเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย”
สิ่งหนึ่งที่กำหนดชะตาชีวิตของเหล่าเด็กมัธยมของประเทศเกาหลีใต้ คงหนีไม่พ้นการสอบ “ซูนึง” (수능) การสอบที่สำคัญไม่ต่างกับวันชาติ เพราะคนทั้งประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้วหากมีสิ่งใดที่สามารถทำเพื่อแลกคะแนนเป็นแต้มต่อในการสอบซูนึงได้ เหล่าเด็ก ม.6 ทั้งหลายก็คงต้องยอมตายถวายชีวิตเพื่อให้ได้มาอย่างแน่นอน แม้จะต้องจับปืนไปสู้รบกับเหล่าเอเลี่ยนก็ตาม
รีวิวซีรีส์ Duty After School เมื่อการเข้ามหาวิทยาลัย สำคัญกว่าชีวิต
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อจู่ ๆ เหนือน่านฟ้าของประเทศเกาหลีใต้ก็ปรากฏวัตถุทรงกลมแปลกประหลาดที่ไม่เคลื่อนไหวและไม่ก่อความอันตรายใด ๆ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปได้ 1 ปี เหล่าวัตถุทรงกลมที่มนุษย์เชื่อว่าไม่เป็นอันตรายก็ปลดปล่อยสัตว์ประหลาดออกมาบุกทำลายเหล่ามวลมนุษยชาติ
งานนี้แม้แต่ทางกองทัพประเทศเกาหลีก็ต้านไว้ไม่อยู่ จึงต้องอาศัยกองกำลังจากเหล่าเด็กมัธยมปลายมาสู้รบกับเอเลี่ยน โดยผลประโยชน์ที่จะได้รับในครั้งนี้คือคะแนนพิเศษสำหรับการสอบซูนึง การสอบที่เป็นดั่งทุกอย่างในชีวิตของเด็ก ม.6 แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต แต่ถ้าทำให้ตัวเองได้มีที่นั่งในมหาวิทยาลัย มีหรือที่เด็กเหล่านี้จะยอมแพ้
การสอบซูนึง สมรภูมิชีวิตที่เหมือนออกรบจริง
สำหรับสิ่งที่เด่นชัดที่สุดของเรื่อง Duty After School ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการสอบซูนึง ตัวเรื่องทำให้เราเห็นอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องผ่านการตีความว่าสมรภูมิชีวิตที่เหล่าเด็กมัธยมต้องก้าวผ่านนั้นไม่ต่างอะไรกับสนามรบ บางคนตาย บางคนรอด ถือเป็นการเปรียบเทียบที่เด่นชัดสุดในเรื่องก็ว่าได้
อย่างไรก็ดี เนื้อหาของเรื่องก็ยังแฝงไปด้วยสัญญะต่าง ๆ ให้ได้ขบคิดอยู่ตลอด ซึ่งในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะมองสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกใส่เข้ามาในซีรีส์อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นโมเดลเอเลี่ยนที่รูปลักษณ์สวยงามทว่าพลังทำลายล้างสูง ความตึงเครียดที่มาในรูปแบบของสงครามจริง ๆ ผสมผสานกับสงครามในการเรียน เรียกได้ว่าเตรียมตัวสอบซูนึงก็เครียดอยู่แล้ว ยังจะต้องมาลงสนามจริงสู้กับซอมบี้อีก ทำเอาเด็ก ๆ กระอักเลือดกันไปเลย
ในโลกของเด็ก ผู้ใหญ่ไม่ได้มีไว้พึ่งพา
อีกประเด็นที่ค่อนข้างตีความได้ง่ายใน Duty After School คือ “ความเป็นผู้ใหญ่” ในสายตาของเด็ก ๆ และในส่วนนี้เองที่เหมือนเป็นกระบอกเสียงให้เด็ก ๆ ชาวเกาหลีได้เผยความในใจออกมาอย่างเต็มที่ว่าผู้ใหญ่พวกนี้ “พึ่งพาไม่ได้” แถมยังดีแต่ออกคำสั่งเป็น “เผด็จการ” โดยสมบูรณ์แบบ
ทว่าท่ามกลางผู้ใหญ่เฮงซวย ก็ยังมีคนที่คอยห่วงใยเราจริง ๆ ปะปนอยู่ด้วย อย่างเช่นบทบาทของครูประจำชั้นห้อง 2-3 ที่มักจะห่วงความปลอดภัยของนักเรียนเป็นอันดับแรกเสมอ ทำให้เห็นว่าในขณะที่ผู้ใหญ่บางกลุ่มเป็นภัยต่อตัวเด็ก ๆ เองซะยิ่งกว่าเอเลี่ยน ก็ยังมีผู้ใหญ่อีกกลุ่มที่เป็นเหมือนแสงสว่างให้เด็ก ๆ ได้พึ่งพิงและเป็นกำลังใจที่ช่วยให้มีกำลังในการต่อสู้บนเส้นทางชีวิต
Coming of Age สไตล์เกาหลี
เท่าที่สังเกตมาซีรีส์เกาหลีสไตล์ Coming of Age มักจะมาพร้อมอุปสรรคที่น่าสะพรึงกลัว ไม่ว่าจะเอเลียนหรือซอมบี้ก็ตาม และที่ขาดไม่ได้เลยคือพวกผู้ใหญ่ที่พึ่งพาไม่ได้ ทำให้ซีรีส์เหล่านี้เป็นเหมือนตัวแทนที่กำลังจะบอกกับสังคมว่าเหล่าเด็ก ๆ ต้องต่อสู้อย่างหนักด้วยตัวเอง และมีบางคนที่สู้จนสุดใจแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ไปต่อ บางทีการได้รับน้ำใจจากสังคมเพียงเสี้ยวหนึ่งก็อาจช่วยให้เด็ก ๆ ได้ก้าวข้ามพ้นวัยโดยไม่จำเป็นต้องเหนื่อยอย่างที่เป็นอยู่ก็ได้
เรียกได้ว่าเป็นเหมือนสูตรสำเร็จของเนื้อหาแนวก้ามผ่านพ้นวัยที่ Duty After School ก็หยิบมาใช้ไม่ต่างจากเรื่องอื่น ๆ และก็ประสบความสำเร็จอย่างดีทั้งในฐานะมันฮวาและซีรีส์ โดยอย่างน้อยที่สุดแล้วตัวเนื้อเรื่องเองก็ได้ทำหน้าที่ระบายความกดดันแทนเหล่าเด็ก ๆ ที่ต้องแก่งแย่งกันในสมรภูมิชีวิตก่อนที่จะต้องเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ ถือว่าเป็นการนำเสนอที่สมบูรณ์แบบในตัว
ให้คะแนนซีรีส์ Duty After School 8.5/10
สำหรับสมรภูมิหลังเลิกเรียนถือว่าทำหน้าที่ได้ดีในฐานะซีรีส์แนวแอคชั่น-ไซไฟ ที่มีธีมเรื่องเป็นการก้าวข้ามพ้นวัยของเหล่าเด็กมัธยมปลาย แต่ก็คงต้องหักคะแนนออกไปเล็กน้อยจากการดำเนินเรื่องเอื่อยเฉื่อยในช่วงแรก ทั้งที่ควรจะสนุกได้มากกว่านี้ แม้จะเป็นปฐมบทของเนื้อหาก็ตาม
ส่วนถัดมาที่ค่อนข้างน่าขัดใจคือความไม่สมเหตุสมผลบางอย่างของเรื่อง และความคิดแบบเด็ก ๆ ที่บางครั้งก็ขัดใจคนดูเสียเหลือเกิน เพราะนอกจากจะดูงี่เง่าเกินความเป็นจริงแล้ว ยังทำให้เนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ดูขัดหูขัดตาตามไปด้วย แต่ก็ได้ความดุเดือดของฉากแอคชั่นมาช่วยรั้งความสนุกให้พุ่งขึ้นมาได้
โดยภาพรวมแล้วซีรีส์ Duty After School หรือ สมรภูมิหลังเลิกเรียน ก็ยังคงเป็นซีรีส์จิกกัดสังคมเกาหลีภายใต้ธีม Coming of Age ที่ทำออกมาได้อย่างมีสไตล์และลายเซ้นความเป็นเกาหลีชัดเจนมาก ทั้งนี้การรีวิวก็เป็นความคิดเห็นส่วนหนึ่งของผู้รีวิว สำหรับใครที่สนใจอ่านแบบมันฮวาก็สามารถตามอ่านกันได้ที่ Line Webtoon และสำหรับใครที่อยากรับชมซีรีส์ก็สามารถดูได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Viu ไปรับชมด้วยตาของตัวเองก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย
