‘รังสิมันต์ โรม’ จี้ถามตำรวจปราบยา ปมร้องดำเนินคดี ‘ส.ว.ทรงเอ’ ไม่คืบ
รังสิมันต์ โรม ฝากข้อความถึง บช.ปส. ถามความคืบหน้าหลังยื่นร้องให้ตรวจ ส.ว.ทรงเอ หรือ อุปกิต ปาจรียางกูร ปมเอี่ยวทุนจีนเทาไม่คืบ
นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ฝากข้อความถึง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตนไม่เห็นความคืบหน้ากรณี “ส.ว.ทรงเอ” หรือ อุปกิต ปาจรียางกูร หลังจากนาย รังสิมันต์ ได้ยื่นฟ้องแจ้งหลักฐานให้ตรวจสอบเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของทุนมินลัต
นาย รังสิมันต์ ระบุว่า “เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ผมมีโอกาสได้ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ (ซึ่งมาปฏิบัติภารกิจที่สภาพอดี) เพื่อแจ้งเบาะแสสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ติดตามนำตัว “ส.ว.ทรงเอ” หรือคุณ อุปกิต ปาจรียางกูร มาดำเนินคดีกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของทุนมินลัต (รวมถึงในกรณีจีนเทา ให้สอบสวนไปถึงผู้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วย เช่น พล.อ.ประวิตร, คุณธรรมนัส)
ผ่านมาแล้ว 10 วัน ผมยังไม่เห็นความคืบหน้าอะไรทั้งนั้น เอาง่ายๆ ที่สุดเลย คือการเอาตัว ส.ว.อุปกิตมาแจ้งข้อหาเพื่อที่จะฟ้องคดีต่อไป ซึ่งตั้งแต่ 1 มีนาคมเป็นต้นมา หมดสมัยประชุมรัฐสภาแล้ว ส.ว. ไม่มีความคุ้มกันใดๆ ที่จะไม่ถูกหมายเรียกหรือหมายจับได้อีก
อันที่จริงเรื่องนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ในตอนนั้นตำรวจสืบนครบาล (บก.สส. บช.น.) ที่จับทุนมินลัตและขยายผลมาถึง ส.ว.อุปกิต ได้เคยขอหมายจับต่อศาลแล้ว ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับให้ แต่กลับมาถอนการอนุมัติในบ่ายวันเดียวกัน แล้วให้ตำรวจไปออกหมายเรียกก่อน อ้างว่าเพราะเป็นบุคคลสำคัญ (เรื่องนี้มีประเด็นต้องสงสัยว่าอธิบดีและรองอธิบดีศาลอาญาจะเข้ามาแทรกแซงให้ถอนหมายจับ ซึ่งผมได้ยื่น ก.ต. ให้ตรวจสอบแล้วเมื่อวันก่อน)
ทีนี้การออกหมายเรียกนั้น ตำรวจทำเองได้ แต่กล่าวโดยสรุปในกรณีนี้หน่วยงานที่มีอำนาจออกหมายเรียกนั้นไม่ใช่ตำรวจสืบนครบาล แต่เป็นอำนาจของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคม 2565 เป็นช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาอยู่ ถ้า บช.ปส. มีการออกหมายเรียก ส.ว.อุปกิตมารับทราบข้อกล่าวหาให้ทันก่อนสภาเปิด ก็อาจยังเดินหน้าคดีต่อไปได้ หรือถ้าออกหมายเรียกแล้วไม่มาใน 15 วัน ก็ยังไปขอหมายจับกับศาลอีกรอบได้
แต่การขอหมายเรียกจาก บช.ปส. ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งในช่วงนั้น และดูเหมือนว่าจะในช่วงนี้ด้วย ในขณะที่คดีทุนมินลัตอยู่ในชั้นศาลแล้ว ตัว ส.ว.อุปกิตกลับยังไม่ถูกแจ้งข้อหาเสียที ทำให้เดินหน้าคดีต่อไม่ได้
ดังนั้นผมจึงต้องถามไปยังผู้บังคับบัญชาของ บช.ปส. ซึ่งปัจจุบันคือ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ว่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมานี้ หน่วยงานของท่านได้มีการนำตัว ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร มาแจ้งข้อหาและเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีแล้วหรือยัง? ถ้ายัง แล้วจะเริ่มต้นได้เมื่อไหร่? อย่างน้อยท่านมีอำนาจในการออกหมายเรียกแน่ๆ หรือหากเห็นว่าเป็นคดีร้ายแรง จะไปขอหมายจับกับศาลเองก็ยังได้
ตัวผมนั้นไม่ได้มีอำนาจที่จะไปสั่งการ ผบช.ปส. ได้ จึงได้แต่หวังในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ติดตามกรณีดังกล่าวและไม่อยากเห็นคนผิดลอยนวลเพียงเพราะใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ หวังว่าท่านจะปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็นตำรวจปราบยาเสพติด และขอฝากความหวังถึง ผบ.ตร. ที่ในวันนั้นกรุณามารับหนังสือจากผมด้วยตัวท่านเอง ช่วยติดตามผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านด้วยเช่นกัน”
รังสิมันต์ โรม เปิดโปงมหากาพย์ ‘ไทยเทา’ อัด ‘ประยุทธ์’ ทำอะไรไม่ได้