วิธีป้องกันโรคเหน็บชา เหน็บกินขาแก้ได้ นั่งนานแค่ไหนไม่หวั่น
เคยไหมเผลอนั่งนาน จนทำเหน็บกินขาชาไปหมด SAIJAI (ใส่ใจ) ขอแนะนำ วิธีป้องกันโรคเหน็บชา เพราะไม่ว่าจะผู้สูงอายุหรือเด็กก็เป็นโรคเหน็บชากันได้ มารู้วิธีแก้อาการเหน็บชาเบื้องต้น ทำอย่างไรไม่ให้เหน็บกิน แก้ได้ทั้งพฤติกรรมการกินอาหารและการใช้ชีวิต ไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย
วิธีป้องกันโรคเหน็บชา ทำตามนี้ไม่มีขาชาแน่นอน
การใช้ชีวิตของเราในแต่ละวัน แน่นอนว่าต้องมีช่วงเวลาที่ทำกิจกรรมบางอย่างนาน ๆ เช่น นั่งสมาธิ สวดมนต์ นั่งทำงาน นอน จนหลายครั้งคุณลืมเปลี่ยนอิริยาบถ กว่าจะรู้ตัวก็ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคุณรู้สึกซ่า ๆ แตะแล้วจั๊กจี้ไปเสียแล้ว นี่คืออาการที่เลือดไม่วิ่งไปเลี้ยงส่วนนั้น หรือที่เรียกว่าเหน็บกินนั่นเอง
ป้องกันเหน็บชาด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
1. เปลี่ยนท่านั่งบ่อย ๆ
ระหว่างทำกิจกรรม พยายามเตือนตนเองให้เปลี่ยนอยู่เป็นระยะ ๆ เช่น สลับนั่งขัดสมาธิกับนั่งพับเพียบ หรือผู้สูงอายุควรเลือกนั่งเก้าอี้จะดีกว่า เพื่อป้องกันปัญหาข้อเข่าที่อาจตามมาได้
2. อย่าลืมหายใจ
ควรนั่งตัวตรงและสูดหายใจลึก ๆ เพื่อให้ปอดทำงานได้เต็มที่ โดยให้หายใจยกกะบังลมและลำตัวขึ้นเป็นช่วง ๆ สลับกันการคลายกล้ามเนื้อลงสลับกันไปตลอดระยะเวลาที่ทำกิจกรรม
3. ยืดกล้ามเนื้อเป็นระยะ
หากรู้สึกว่าอยู่ในอิริยาบถเดิมนานจนเกินไป ให้ยืดหรือคลายกล้ามเนื้อเล็กน้อย เช่น กำและแบมือสลับกัน, เอียงคอไปทางซ้ายและขวา ยืดค้างไว้สักครู่ประมาณ 10-30 นาที, ยืดขาตรงและยืดเหยียดข้อเท้า เป็นต้น
4. พักผ่อน นอนหลับ และออกกำลังกาย
ควรนอนหลับให้เพียงพอ รวมถึงออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้เป็นปกติ และการออกกำลังกายก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
ป้องกันเหน็บชาด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
การรับประทานอาหารสามารถส่งผลต่ออาการเหน็บชาได้ เพราะอาการเหน็บส่วนใหญ่ เกิดจากการขาดวิตามินบี 1 (Thiamin) ซึ่งปกติแล้วร่างกายของมนุษย์ควรได้รับวิตามินชนิดนี้เป็นประจำทุกวัน ประมาณ 1-1.5 มิลลิกรัม (mg) ในวัยผู้ใหญ่
อาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินบี 1 ได้แก่ เนื้อสัตว์ (หมู, ไก่, วัว, ตับ), ข้าวกล้อง, ข้าวหอมมะลิ, จมูกข้าวสาลี, ขนมปัง, ถั่วและงา, มะเขือเทศ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังควรลดการรับประทานอาหารมีสารทำลายวิตามินบี 1 เช่น ปลาน้ำจืด, ปลาร้า, หอยลาย, ใบชา, ข้าวที่ขัดสี, ของดิบและของหมักดอง, แอลกอฮอล์ เป็นต้น รวมถึงอาหารที่ผ่านการใช้ความร้อนเป็นเวลานาน
ทั้งหมดนี้คือเกร็ดความรู้ที่ SAIJAI ขอนำมาฝากคุณ นอกจากสาระดี ๆ แล้วใส่ใจยังมีบริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน, คนขับรถ, ติวเตอร์, เสริมสวย, พี่เลี้ยงเด็ก, พี่เลี้ยงดูแลสัตว์, คนดูแลผู้สูงอายุ, ช่างซ่อมบำรุง คอยให้บริการคุณอีกเพียบ ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ saijai.io ใส่ใจเต็มร้อยแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจอยากใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก หรือบริการดูแลผู้สูงอายุ ระหว่างที่คุณไปร่วมกิจกรรมวันมาฆบูชาที่จะถึงนี้ สามารถเข้าไปสอบถามหรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก SAIJAI Homecare หรือกดสมัครสมาชิก SAIJAI FAMILY MEMBERSHIP ได้ที่เว็บไซต์ https://pointspot.co/@SAIJAI_Homecare สิทธิพิเศษดี ๆ รอคุณอยู่เพียบ
นอกจากนี้ SAIJAI ยังมาพร้อมส่วนลดดี ๆ เพียงแอดไลน์ @saijai_care แล้วแจ้งโค้ด SAIJAITHAIGER ในช่องแชต รับไปเลย Voucher มูลค่า 50 บาท สำหรับใช้เป็นส่วนลดค่าบริการเมื่อทำรายการจองบนแพลตฟอร์ม saijai.io.
ขอบคุณข้อมูลจาก: RAMA Channel ddc.moph.go.th