ซีรี่ย์

รีวิว Love to Hate You (2023) ซีรีส์ของคนไม่เชื่อในความรัก

ไม่มีกั๊ก! รีวิว Love to Hate You ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ที่จะมาเขย่าใจทุกคนในช่วงวันวาเลนไทน์ การันตีความมาแรงด้วยอันดับ Top 3 ใน Netflix

เข้าสู่ช่วงเดือนแห่งความรักกันแบบนี้ เราก็ไม่พลาดพาทุกคนไปรู้จักซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ Love to Hate You (ยี้ให้หนัก รักให้เข็ด) ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ได้ชมกันสด ๆ ร้อน ๆ ใน Netflix งานนี้กระแสมาแรง เพราะเต็มไปด้วยนักแสดงมากฝีมือทั้ง ยูแทโอ และ คิมอ๊กบิน แถมยังมีพล็อตที่เบาสมอง ย่อยง่าย เหมาะกับวันสบาย ๆ เป็นอย่างมาก ฉะนั้นหากใครพร้อมแล้ว ไปอ่านรีวิว Love to Hate You แบบจัดเต็มจากไทยเกอร์กันได้เลย

Advertisements

รีวิว Love to Hate You ยี้ให้หนัก รักให้เข็ด

ถือเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความสนใจพอสมควร สำหรับ Love to Hate You ยี้ให้หนัก รักให้เข็ด ที่ได้คนเขียนบท ชเวซูยอง ผู้เคยฝากผลงานผ่านซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง My ID is Gangnam Beauty มาอวดฝีไม้ลายมือ เขียนบทด้วยความเฉียบคมอีกครั้ง โดยผลงานเรื่องนี้ของเจ้าตัวทั้ง 10 ตอน ก็ถือได้ว่า มีความสมูทน่าสนใจ ไม่ผิดไปจากเรื่องก่อนหน้า และยังคงทิ้งกลิ่นอายความเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

เรื่องย่อและนักแสดง Love to Hate You

Love to Hate You (ยี้ให้หนัก รักให้เข็ด) เป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของทนายความสาว ‘ยอมีรัน’ และนักแสดงหนุ่มชื่อดัง ‘นัมกังโฮ’ พร้อมด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากยอมีรันเป็นคนที่ไม่เชื่อและไม่สนใจในความรักเชิงชู้สาว ในขณะที่นัมกังโฮหวาดระแวงเพศตรงข้าม แต่กลับต้องมาอยู่ใกล้ชิดกัน จนเกิดเป็นความรู้สึกพิเศษที่ทำเอาทั้งสองคนวุ่นวายใจ

สำหรับการแคสต์นักแสดงนำในซีรีส์เรื่องนี้ ถือได้ว่าทำออกมาดีทีเดียว เนื่องจากนักแสดงสามารถปรับตัวให้ดูสมจริงในบทบาทของตัวเองเป็นอย่างมาก อาทิ

ยูแทโอ รับบทเป็น นัมกังโฮ

Advertisements

ภาพลักษณ์ของหนุ่มยูแทโอ เรียกได้ว่าเหมาะกับบทนำในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะบทกังโฮที่เขาได้รับ คือพระเอกฮอตของเกาหลีใต้ที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วประเทศ การที่แทโอได้มาเล่นบทนี้ ถือว่าตีบทแตก ทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์ การแสดงออกทางสายตา การวางตัว ตลอดจนออร่าความเป็นซุป’ตาร์ที่กระแทกใจคนดูอย่างจัง

รีวิว Love to hate you
ภาพจาก Netflix

คิมอ๊กบิน รับบทเป็น ยอมีรัน

ยอมีรันในเรื่องนี้ เป็นทนายความสาวที่ไฟแรง และมีความกล้าได้กล้าเสียแถมยังตายด้านเรื่องความรัก ซึ่งคนที่มาแสดงบทนี้อย่าง ‘คิมอ๊กบิน’ ก็สามารถทำให้คนดูเชื่อได้จริง ๆ ว่า เธอทุ่มเททุกอย่างเพื่องาน ทั้งยังมีทักษะการเข้าถึงบทที่ทำเอาคนดูคล้อยตามได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

รีวิว Love to hate you
ภาพจาก Netflix

รีวิวการดำเนินเรื่อง Love to Hate You

หากใครที่ชอบซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ อาจรู้สึกตกหลุมรักซีรีส์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก เพราะนี่คือซีรีส์รอมคอมเรื่องใหม่ที่ทำออกมาได้สนุกกรุบกริบหัวใจ เราจะมีโอกาสได้เห็นการบาดหมาง เอาคืนกันไปมาระหว่างพระนาง ที่ต่างฝ่ายต่างไม่เชื่อเรื่องความรัก มีการนำเสนอเส้นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน

อีกทั้งในซีรีส์เรื่องนี้ เรายังได้เห็นมุมมองความรักจากหลายแง่มุม ที่ถ่ายทอดออกมาจากสายตาของตัวละครนำ ซึ่งคนดูจะมีโอกาสได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านความโรแมนติก และมุขตลกที่ทำให้อมยิ้มได้เรื่อย ๆ แม้จะมีบางช่วงที่ซีรีส์ที่ทำให้รู้สึกเอื่อยไปบ้าง แต่ก็ยังสะกดจิตให้เราดูต่อได้เรื่อย ๆ จนจบ เพื่อเอาใจช่วยนัมกังโฮและยอมีรัน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการดึงดูดใจคนดูได้ดีทีเดียว

รีวิว Love to hate you
ภาพจาก Netflix

ตัวละครที่มีความซับซ้อนในความรู้สึก

อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า ซีรีส์เรื่อง Love to Hate You เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ไม่เชื่อเรื่องความรักและปราศจากความปรารถนาเชิงโรแมนติก กับชายหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรักและไม่มีความไว้วางใจต่อผู้หญิง ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นการถ่ายทอดความรู้สึกในรูปแบบที่ซับซ้อนของตัวละคร ทั้งการไม่ยอมรับความต้องการของตัวเอง ตลอดจนความอึดอัดที่บางทีก็ทำเอาคนดูอยากเข้าไปหยุมหัวทั้งคู่สักครั้ง

แต่ถึงตัวละครจะมีความซับซ้อนด้านความรู้สึก ทว่าในฐานะคนดู ต้องยอมรับว่าตัวซีรีส์เล่าออกมาได้ย่อยง่าย เพราะเราจะได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นและซึมซับไปพร้อม ๆ กับทั้งคู่ อีกทั้งเคมีของนักแสดงเอง ก็มีความลงตัว ให้ฟีลความรักของผู้ใหญ่ที่ไม่หวือหวาจนเกินไป แถมยังเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความโรแมนติกอีกด้วย

รีวิว Love to hate you
ภาพจาก Netflix

องค์ประกอบภาพและการตัดต่อ

ขึ้นชื่อว่าซีรีส์เกาหลี อย่างหนึ่งที่ผู้รีวิวให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือฉากและการจัดวางองค์ประกอบภาพ โดยซีรีส์เรื่อง Love to Hate You ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย เนื่องจากมีฉากสวย ๆ ให้เราได้เพลินตากันอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งการย้อมสีของซีรีส์ ก็ทำออกมาได้อบอุ่น แม้จะอยู่ในฉากที่หิมะตกก็ตาม

นอกจากนี้แล้วการตัดต่อของซีรีส์ ก็ทำออกมาได้อย่างกลมกล่อม ด้วยความที่ Love to Hate You เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ทำให้มีซีนที่โบ๊ะบ๊ะปรากฏออกมาเรื่อย ๆ ทว่าทีมตัดต่อก็ทำการบ้านมาอย่างดีเยี่ยม เพราะสามารถทำให้เราอมยิ้มกับฉากต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่รู้สึกติดขัดอะไรเท่าไหร่นัก

รีวิว Love to hate you
ภาพจาก Netflix

ให้คะแนนซีรีส์ Love to Hate You 8/10

จากความรู้สึกส่วนตัว ผู้รีวิวให้คะแนนซีรีส์เรื่อง Love to Hate You ไปทั้งหมด 8 คะแนนเต็มสิบ ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกสงสัยว่า ทำไมถึงให้คะแนนน้อย สวนทางกับคำวิจารณ์ที่อวยซะเต็มที่ นั่นก็เพราะว่า แม้ซีรีส์เรื่องนี้จะทำออกมาได้ดี แต่ก็ยังไม่ได้สร้างความประทับใจถึงขนาดที่ทำให้เราเสพติดจนอยากดูฉากไหนซ้ำเป็นพิเศษ อีกทั้งพล็อตเรื่องยังมีความคาดเดาง่าย และมีแก่นของเรื่องบางเบาจนน่าเสียดาย

แต่ในขณะเดียวกัน 8 คะแนนที่ผู้รีวิวมอบให้ซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ได้มาจากแค่ความฟินของตัวพระนาง หรือพล็อตความโรแมนติกคอมเมดี้เท่านั้น แต่ผู้รีวิวประทับใจในแง่มุมการนำเสนอเรื่องความเท่าเทียม การเล่าถึงสิทธิต่าง ๆ และการนำเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์แก่คนดู ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน นอกจากความสนุกและการดำเนินเรื่องที่เฉียบคม ข้อคิดดี ๆ จากซีรีส์ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผู้รีวิวในฐานะคนดู ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ทำให้ผู้รีวิวรู้สึกค่อนข้างประทับใจในซีรีส์เรื่อง Love to Hate You นั่นเอง

รีวิว Love to hate you
ภาพจาก Netflix

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button