ข่าวภูมิภาค

ชื่นชมสาวพนักงานรถโพถ้อง พบสร้อยข้อมือ 2 บาท แหวน 1 วง ตามหาเจ้าของ ไม่หวังเอาทรัพย์สินของคนอื่นเป็นตน

จากกรณีที่เฟสบุ๊คชื่อ เด่นเวหา ศิษย์ครูพัฒน์ได้โพสต์เฟสบุ๊คเพื่อตามหาเจ้าของสร้อยคอมือทองคำน้ำหนัก2 บาท แหวนทองคำหนัก 1 สลึง 1 วง หลังพนักงานกระเป๋ารถประจำทางรถโพถ้อง พบแล้วมามอบให้นายท่ารถโพถ้องคิวตลาดใหม่มุมเมือง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อประกาศตามหาเจ้าของ ข้อความว่า ไม่รู้ทองผู้โดยสารคนไหน ทำตกอยู่ในรถโพถ้อง คัน 10-1134 ซุปเปอร์ชีป ตลาดใหม่มุมเมือง ติดต่อรับได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-4775214หลวงไก่ โดยมีคนแชร์และแสดงคามความคิดเห็นชื่นชมจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (22ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณตลาดใหม่มุมเมือง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่จอดรถโดยสารประจำทางรถโพถ้อง ได้พบกับ นายวิโรจน์ ยอดทอง อายุ 45 ปี นายท่ารถประจำทางรถโพถ้อง ผู้โพสต์เฟสบุ๊ค โดยทราบว่าผู้พบคือ นางภาวนา แก้วคง อายุ 32 ปี อาชีพประเป๋ารถประจำทางรถโพถ้อง หมายเลข 10-1134 ภูเก็ต มีนายสัญญา บัวหอม เป็นคนขับรถ

นายวิโรจน์ ยอดทอง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ 21 ธ.ค.60 เวลาประมาณ 19.30 น.นางภาวนา แก้วคง พนักงานกระเป๋ารถประจำทางรถโพถ้อง ได้นำสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 2 บาท แหวน น้ำหนัก 1 สลึง 1 วง มูลค่าประมาณ 50,000 บาท มามอบให้ตน โดยเล่าว่า หลังจากที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นกระเป๋ารถโพถ้องรถออกจากตลาดใหม่มุมเมือง เพื่อเดินรถไปตามเส้นทางยังห้างซุปเปอร์ชีป เมื่อพนักงานขับรถขับรถถึงบริเวณสาวนสาธารณะสวนหลวง ร.9 ได้มีคนคนหนึ่งขึ้นมาบนรถ แล้วบอกว่าจะเดินทางไปยังห้างซุปเปอร์ชีป แต่เมื่อพนักงานขับรถขับรถจุดหมาย ปรากฏว่าคุณยายคนดังกล่าวไม่ลงรถ โดยนั่งโดยสารกลับมายังที่จุดเดิมที่คุณยายขึ้นรถ หลังจากที่คุณยายลงรถไปกระเป๋ารถก็ไม่ได้เออะใจอะไร แต่เมื่อกลับเข้าใกล้ถึงลานจอดรถปรากฏว่าเห็นสร้อยข้อมือและแหวนวางอยู่บนพื้นตรงกลางรถ พนักงานกระเป๋ารถโพถ้องคนดังกล่าวก็เก็บสร้อยข้อมือและแหวนมามอบให้ตนเพื่อประกาศตามหาเจ้าของ โดยคิดว่าทรัพย์สินดังกล่าวน่าจะเป็นของคุณยายที่ลงรถที่หน้าสวนสาธารณะสวนหลวง ร.9 ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ตนจึงประกาศตามหาเจ้าของบนเฟสบุ๊ค จนกระทั่งมีคนแชร์และแสดงความคิดเห็นอย่างมาก โดยมีเสียงชื่นชมกับกระเป๋ารถโพถ้องดังกล่าวอย่างมาก ที่ไม่คิดเอาทรัพย์สินมีค่าของคนอื่นมาเป็นของตนเอง เป็นตัวอย่างที่ดีในสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button