‘โอม ภวัต’ ขอโทษเหยื่อบูลลี่ รู้สึกผิดมาตลอด อ้างความคึกคะนองวัยเด็ก
โอม ภวัต ออกมาขอโทษแล้ว เหตุเคยบูลลี่เพื่อนที่เป็นออทิสติก แฮชแท็กเดือดโลกทวิตเตอร์ #โอมภวัตออกมาพูดเถอะ ชาวเน็ตตามขุดพฤติกรรมในอดีตเพียบ
หลังจากที่มีประเด็นร้อนโลกโซเชียลอยู่นานหลายวัน เหตุดราม่านักแสดงบูลลี่เพื่อน มีชาวเน็ตแฉพฤติกรรมของดาราวัยรุ่นคนหนึ่งที่เคยบูลลี่เพื่อนที่มีอาการออทิสติก โดยนักแสดงคนดังกล่าวก็คือ โอม ภวัต จิตต์สว่างดี นักแสดงวาย สังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี จากเรื่อง Make It Right the Series รักออกเดิน (2559) นั่นเอง
ล่าสุดโอมได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว หลังจากเกิดกระแสกดดัน ตามมาด้วยแฮชแท็ก #โอมภวัตออกมาพูดเถอะ
โดยโอมได้โพสต์ข้อความผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต้นเรื่องอย่าง Twitter ชี้แจงพร้อมขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเขียนแคปชั่นว่า “ผมขออนุญาตอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ 🙏🏻”
โอมระบุว่าตนทำไปเพราะความคึกคะนองในวัยเด็กตามประสาเด็กผู้ชาย อีกทั้งยังกล่าวว่าตนรู้สึกผิดมาโดยตลอดและไม่เคยให้อภัยตัวเองเลย ข้อความดังกล่าวมีใจความดังนี้
“สำหรับเรื่องราวที่เป็นประเด็นอยู่ ผมต้องขอโทษด้วยครับที่ออกมาอธิบายช้า เพราะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นด้วย ผมขออนุญาตชี้แจงนะครับ
ผมยอมรับครับว่าตอนเด็กๆ ผมซนและแสบมากพอสมควร ซึ่งหลายๆ ครั้งก็เป็นการเล่นคึกคะนองแบบเด็กผู้ชายโดยไม่ได้มีเจตนาจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ตอนมัธยมต้นที่ผมและเพื่อนๆ แกล้งเพื่อน ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นผมและเพื่อนๆ ถูกอาจารย์ตักเตือน ลงโทษด้วยไม้เรียว และเรียกผู้ปกครองเข้าพบ
ผมและคุณพ่อคุณแม่ ได้ขอโทษเพื่อนและคุณพ่อคุณแม่เพื่อนสำหรับความผิดของผมในครั้งนั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผมและทำให้พยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นมาตลอด
ผมรู้สึกเสียใจ ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตช่วงที่ผมเป็นเด็กยังทำให้เพื่อนคนนั้นต้องมีแผลในใจมาจนถึงวันนี้ ผมขอโทษจริงๆ จากใจนะครับ
สิ่งที่เกิดขึ้นผมรู้สึกผิดตลอดชีวิต และไม่เคยให้อภัยตัวเองเลย ผมขอโทษทุกๆ คนที่ได้รับผลกระทบจากความคึกคะนองในวัยเด็กของผมด้วยนะครับ”
หลังจากที่โอม ภวัต ได้โพสต์ข้อความดังกล่าว ปรากฏว่ามีความคิดเห็นจากชาวเน็ตในหลากหลายมุม ส่วนใหญ่มองว่าโอมควรไปขอโทษบุคคลที่เป็นเหยื่อบูลลี่โดยตรง รวมถึงคนที่ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของโอมที่ระบุว่าทำไปเพราะความคึกคะนองวัยเด็กตามประสาเด็กผู้ชาย เพราะเรื่องของความรุนแรงไม่ใช่เรื่องปกติที่ควรจะเป็น.