ปมเข้าไปขโมยต้นกัญชาสวนเพื่อนบ้านกลางดึกก่อนถูกเจ้าของกระทืบเจ็บสาหัส กลับไปรักษาตัวที่บ้านไม่นานสิ้นลม พี่สาวผู้ตายติดใจโร่ขอความเป็นธรรม เผยน้องคลานหนีแล้ว แต่โดนตามมากระทืบซ้ำ
วันที่ 7 ธันวาคม 2565 นางวรรณา อรัญสร อายุ 55 ปี พี่สาวของนายคำดี อรัญสร อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปขโมยกัญชาของเพื่อนบ้านถูกเจ้าของบ้านจับได้และทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนอาการทรุดหนักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา พร้อมกับญาติอีก 7 คน ได้เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี
พี่สาวผู้ตาย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตจำรวจล่าสุดว่า น้องชายของเธอได้เข้าไปขโมยต้กัญชาของเพื่อน้านแล้วถูกจับได้จนต่อมาถูกซ้อททำร้ายร่างกายหลายครั้ง แม้น้องชายจะพยายาคลานหนีออกมาแต่ก็ถูกตามากรทืบซ้ำกระทั่งอาการสาหัส กลับไปรักษาตัวที่บ้าน 2 สัปดาห์แล้วก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุ นางวรรณา กล่าวว่า พอเธอไปแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่รับทำคดีให้ อ้างว่า นายคำดี น้องชายเข้าไปขโมยของที่บ้านของคนอื่น เจ้าของบ้านสามารถป้องกันทรัพย์สินของตัวเองได้ โดยประเด็นนี้ฝั่งพี่สาวผู้ตายมองว่าไม่ถูกต้องเพราะน้องชายไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยมาก่อน อีกทั้งหลังจากที่ถูกซ้อมก็เกิดอาการเจ็บป่วยจนเสียชีวิต ที่ผ่านมาพยายามไปพบตำรวจเพื่อที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับคนทำร้ายร่างกาย ตำรวจก็ข่มขู่ฝ่ายของเธอจนทำให้เกิดความกลัวและไม่กล้าที่จะแจ้งความ กระทั่งต้องำนเรื่องมาร้องขอความเป็นธรรมรอบล่าสุดกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี
ด้าน พล.ต.ต.พิษณู ผบก.ภ.จ.อดรธานี กล่าวถึงคดีนี้ว่า พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายแต่จากข้อมูลที่ได้รับฟังเชื่อว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาคู่กรณีได้ คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา หรือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
หากญาติผู้ตายเชื่อว่ามีประจักษ์พยานอื่นหรือหลักฐานอื่นก็นำมาให้ตำรวจ นอกจากนี้ ผลวินิจฉัยการเสียชีวิตของแพทย์ ก็เป็นหลักฐาน ซึ่งจะต้องไปสอบสวนปากคำจากแพทย์ที่ทำการรักษา ขอรับรองว่าตำรวจจะต้องรับแจ้งความแน่นอน และให้ทั้งสองฝ่ายไปพิสูจน์ความจริงกันบนศาล
ภาพ : ข่าวอุดร ข่าวโฮมเคเบิ้ล
