กลายเป็นเรื่องราวสุดน่าสงสารจนคนกระหน่ำแชร์ในโลกออนไลน์อย่างมากกรณี “สาวประกาศขายดวงตา” เนื่องจากไม่มีเงินมาเลี้ยงดูลูกที่กำลังใกล้คลอด โดยเธออายุเพียง 39 ปี แต่ชีวิตโดนมรสุมกระหน่ำ สามีชาวลาวมาเสียชีวิตกะทันหันด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน เงินเก็บที่มีกว่า 7 หมื่นบาท หมดไปกับค่ารักษาพยาบาลและส่งเถ้ากระดูกสามีกลับลาว
ก่อนหน้านี้มีสามีคนแรกก็เสียชีวิตจากโรคไหลตาย ต่อมาปี 2564 ลูกชาววัย 22 ปี กับสามีเก่าก็มาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เธอมีเงินติดตัวอยูาเพียง 100 บาท เธอจึงไปอาศัยอยู่กับญาติที่อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี แต่เนื่องจากเป็นหญิงท้องแก่ใกล้คลอดมีอาการเจ็บท้องจึงได้มานอนรอคลอดที่โรงพยาบาลอุดรธานี
ต่อมาทราบว่าเธอ หรือ น.ส.วนิดา (นางสมมติ) เป็นชาวโขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ตั้งใจประกาศขายดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง 2 หมื่นบาท เพื่อหาทุนไว้ให้ลูกและเป็นทุนประกอบอาชีพ โดยล่าสุด วันที่ 5 ธ.ค. 2565 พบว่าได้คลอดทารกออกมาเองแล้ว เป็นเพศหญิง ตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
เมื่อข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป นายจ้างเก่าของสาวใกล้คลอด คือ น.ส. บีและสามีเจ้าของสวนอินทผลัม อ.เมือง จ.สระแก้ว ทราบข่าวก็ตกใจมากจึงเดินทางมาพบ น.ส.วนิดา เพื่อมาเยี่ยม เมื่อพบสื่อมวลชนจึงได้เล่าที่มาที่ไปที่รู้จักกันว่า เมื่อต้นเดื่อนพฤศจิกายน เธอเคยมีขอสมัครงานทำงานที่สวนผ่านเฟซบุ๊ก จึงให้ทำตำแหน่ง รดน้ำต้นอินทผลัม เนื่องจากเห็นว่าท้องแก่ ให้เงินเดือน 9,000 บาท
เมื่อวันที่ที่ 5 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีดังกล่าว พบว่า น.ส.วนิดา หมอได้ให้คลอดเองแล้ว ปรากฏว่าเป็นทารกเพศหญิง ต่อมาเวลา 15.00 น. ปรากฏว่ามีอดีตนายจ้างของ น.ส.วนิดา เดินทางมาเยี่ยมหลังจากเห็นข่าว คือ สองสามีภรรยาเจ้าของสวนอินทผลัม อ.เมือง จ.สระแก้ว เผยว่า ตนเองและสามีเดินทางมาเที่ยวที่ จ.หนองคาย เห็นข่าวเมื่อเช้านี้ตกใจมาก ก่อนหน้านี้ประมาณต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เขาเคยสมัครงานทางเฟซบุ๊กกับทางเรา เป็นคนสวนรดน้ำต้นอินทผลัม จ.สระแก้ว ให้เงินเดือน 9,000 บาท เขาก็ทักไปบอกว่ามีเงินก้อนสุดท้ายซื้อตั๋วรถไฟลงไปพร้อมไปทำงานด้วย ตนเองที่อยู่รังสิตก็มารับที่สถานีรถไฟ ให้นอนที่บ้านรังสิต 1 คืน
ปรากฎว่าทำงานได้ 2 วัน ประมาณวันที่ 10 พ.ย. เธอเดินทางกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี เจ้าของสวนจึงทักไปสอบถามด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวก็ถ่ายรูปมาแจ้งว่านอนที่โรงพยาบาลแล้วเห็นมีรูปเด็กด้วย บอกว่าหนูคลอดแล้ว เป็นรูปเด็กทารกที่รพ. ตอนแรกก็อยากช่วยเหลือ ว่าจะซื้อผ้าอ้อม นมทารกให้ แต่เมื่อสอบถามไปยังโรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่มีชื่อหญิงรายนี้ในห้องคลอด เราก็งง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
นายเพจ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ตอนแรกจะนำเงินที่ทางแฟนคลับเฮียช่วยกันบริจาคมาช่วยสาวท้องแก่ประกาศขายดวงตา เมื่อลงพื้นที่และได้พบกับอดีตนายจ้างจึงสอบถามพูดคุยกันเรื่องประวัติ มีความสงสัยด้านไทม์ไลน์การคลอดลูก จ้างเล่าว่าสาวรายนี้เคยอ้างว่าคลอดลูกไปเมื่อเดือนทึ่แล้ว ทำไมวันนี้มาคลอดอีก เฮียเปี๊ยกจึงระงับการมอบเงินบริจาคไว้ช่วยคราว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
“วันนี้ผมได้ลงพื้นที่เพื่อนำเงินที่ทางfcของทางเฮียเปี๊ยกช่วยด้วยร่วมบริจากกันมาเพื่อช่วยสาวท้องแก่ที่ประกาศขายดวงตาตามทึ่เป็นข่าวและได้พบกับอดีตนายจากของสาวท้องแก่รายนี้จึงได้มีการสอบถามพูดคุยถึงประวัติและพฤติกรรมของอดีตลูกจากรายนี้
นายจ้างเล่าว่าสาวรายนี้เคยอ้างว่าคลอดลูกไปเมื่อเดือนทึ่แล้วเพื่อให้นายจ้างส่งเงินมาช่วยเหลือตนแล้วครั้งหนึ่งจนนายจ้างมาเห็นข่าวเลยงงว่าก็บอกคลอดไปเดือนก่อนทำไมมาคลอดอีกวันนี้เลยรีบเดินทางมาดูด้วยตนเองแต่ไม่ได้พบอดีตลูกจ้างเพราะเข้าห้องคลอดแล้ว
เบื้องตนเฮียจึงได้ระงับการส่งมอบเงินบริจากไว้ชั่วคราวเพื่อสอบข้อเท็จจริงก่อนและทบทวนการมอบเงินบริจากหากพบว่าสาวท้องแก่รายนี้มีเจตนาไม่บริสุทธิก็จะระงับการส่งมอบเงินบริจากและส่งเงินบริจากทั้งหมดคืนให้แก่ผู้ที่บริจากมา ส่วนทางด้าน รพ. และหน่วยงาน พมจ. ก็ดูแลสาวท้องรายนี้เป็นอย่างดีตามสิทธิที่พึงมีพึงกระทำได้ตามอำนาจหน้าที่ไม่ว่าสาวท้องรายนี้จะมีเจตนาในพฤติกรรมอย่างไรก็ตาม”