Line Newsบันเทิง

ตำรวจจับ “มายด์ วรัญรภัสส์” คดีโกงทองคำ รวม 200 ล้าน มายด์ปฏิเสธ ตนคือผู้เสียหายเหมือนกัน

คืบหน้ากรณี สืบสวนนครบาล ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุม มายด์ วรัญรภัสส์ ตัวเน็ตไอดอลชื่อดังก่อเหตุหลอกลงทุนทองคำโดยการชักชวนเหล่าผู้เสียหายทางเฟซบุ๊ก มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท นั้น

ต่อมาทางตำรวจได้ตรวจสอบเน็ตไอดอลชื่อดังรายนี้ พบประวัติก่อคดีมาหลายคดี และในปัจจุบันผู้ต้องหามีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน กระทั่ง กก.6 บก.ป. บช.ก. ได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับและได้ประกาศสืบจับไปทั่วประเทศ

Advertisements

ล่าสุด ณ หน้าห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งย่านประชาราษฎร์ บางซื่อ กรุงเทพ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2565 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมคณะ ร่วมกับชุด PCT5 สืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.วรัญรภัสส์ หรือมายด์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2694/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 65 ในข้อหา ได้แก่

  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
  • ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
  • ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

พฤติการณ์ย้อนกลับไป ปี พ.ศ.2561 มายด์ วรัญรภัสส์ ได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยการตระเวนโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก ชักชวนประชาชนทั่วไป มาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง โดยมีการกล่าวอ้างว่ามีทองคำแท่งที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด แล้วมีการขายเอากำไรเป็นทอดๆ ซึ่งช่วงแรกได้กำไรจากเงินส่วนต่างจริง

หลังจากนั้นเมื่อเหล่าผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ ใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่ ซึ่งจากนั้นก็ไม่ได้รับทองคำหรือกำไรตามที่แจ้ง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายทั่วประเทศ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายแห่ง

อย่างไรก็ดี มายด์ วรัญรภัสส์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่าปัจจุบันตนเองทำงานเป็นโมเดลลิ่ง และเป็นบุคคลมีเชื่อเสียงในโลกโซเชียล โดยในตอนเกิดเหตุช่วงปี 2561 นั้นตนเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน โดยตนเองมีหน้าที่ชักชวนให้เหล่าผู้เสียหายมาลงทุน และยังมีหน้าที่รับเงินจากเหล่าผู้เสียหายก่อนจะโอนไปให้กับ ‘หัวหน้าขบวนการ’ โดยตนเองจะหักกำไรไว้บางส่วน จึงทำให้ตนเองถูกดำเนินคดี โดยตลอด 4 ปี ที่ผ่านมามีการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและขึ้นศาลหลายแห่ง ส่วนหัวหน้าขบวนการนั้นได้ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการชดใช้เงินให้กับเหล่าผู้เสียหายยอมติดคุก”

ภายหลังจากที่ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. แล้วจะมีการสอบสวนขยายผลต่อ

Advertisements

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button