ริโอ เฟอร์ดินานด์ (Rio Ferdinand) ออกโรงยกย่อง จู๊ด เบลลิ่งแฮม (Jude Bellingham) ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่ อังกฤษ ถล่ม อิหร่าน พร้อมยุให้แข้งดาวรุ่งนี้โยกซบ แมนซิตี้ มากกว่ามา แมนยู
เบลลิ่งแฮม เป็นคนโหม่งประตูแรกให้กับขุนพล ทรี ไลอ้อนส์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ในเกมแรกที่ลงสนามพบกับ อิหร่าน ทีมแกร่งจากเอเชีย ก่อนที่ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะเอาชนะคู่แข่งไปได้อย่างท่วมท้น 6-2
และจากประตูดังกล่าวทำให้กองกลางจากดอร์มุนด์กลายเป็นนักเตะที่เด็กที่สุดที่ทำประตูให้กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นรองเพียงแค่ ไมเคิล โอเว่น เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
หลังจบเกม เฟอร์ดินานด์ ได้พูดผ่านรายการ Vibe With The Five ซึ่งเป็นรายการของเขาเองว่าดาวเตะวัย 19 ปีรายนี้ทำผลงานได้สุดยอดในเกมนี้ พร้อมชมว่าดาวรุ่งรายนี้มีความสามารถและวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำของทีมชาติได้ในอนาคต
“บ่อยครั้งที่เราเห็นนักเตะและพูดว่า ‘นักเตะคนนี้โคตรเก่ง บลา บลา บลา’ แต่คุณไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นนอกสนาม เพราะพวกเขายังเด็ก และอาจทำผิดพลาดได้ และมันมีองค์ประกอบบางอย่างที่แสดงความไร้เดียงสาในบางสถานการณ์”
“เด็กคนนี้, กับการแบกทีมและคาแร็กเตอร์, เขาอาจเป็นกัปตันทีมในตอนนี้ได้เลย”
อีกทั้งอดีตเซ็นเตอร์แบ็คชาวอังกฤษยังยอมรับว่าเขาอยากเห็นเบลลิ่งแฮมย้ายไปเล่นให้กับ แมนซิตี้ มากกว่า แมนยู อดีตต้นสังกัดของเขา เพราะมองว่าเป็นเรื่องยากที่นักเตะจะเลือกมาอยู่กับทัพปีศาจแดงในตอนนี้
“ไม่เลย ผมคิดว่าถ้าคุณสวมบทบาทเป็น จู๊ด เบลลิงแฮม ตอนนี้ ทีมอย่าง ซิตี้ จะเข้ามาทาบทามเขา เรอัล มาดริด กำลังให้ความสนใจ, บาร์ซ่า ก็สนใจ, บาเยิร์น ก็อาจสนใจด้วย”
“ยูไนเต็ด ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ เว้นเสียแต่ว่าเขาอาจคิดว่า ‘คุณรู้ไหม ผมอาจเป็นตัวกระตุ้นเพื่อยกระดับสโมสรนี้กลับไปในจุดที่ควรจะเป็น’ นั่นคือวิธีเดียวที่เขาจะย้ายได้”
“ถ้าเขาคิดว่าคือคนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือสโมสรของเขา แต่ผมนึกไม่ออกว่าเขาจะตัดสินใจแบบนั้น”
“อังกฤษมีกองกลางที่ยอดเยี่ยมมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สโคลส์, เจอร์ราร์ด, แลมพาร์ด รวมถึง แกสคอยน์”
“พวกเขาเหล่านี้ไม่มีใครทำในสิ่งที่ จู๊ด เบลลิงแฮม กำลังทำอยู่ในเวทีระดับโลกด้วยวัยนี้ เด็กคนนี้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกแล้วหลายเกม, เขาทำทุกอย่าง”
“ผมไม่ได้บอกว่าเขาดีกว่า, ผมไม่ได้บอกว่าเขาจะเก่งกว่า แต่ด้วยวัยนี้, เขาทำในสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถทำได้เลย”
เกมต่อไปของทีมชาติอังกฤษ จะต้องลงสนามพบกับ สหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งเสมอกับ เวลส์ 1-1 ในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย