ตำรวจชี้ ‘ฮารุ ลัทธิคลั่ง’ แจ้งข้อหายาก ทุกคนสมัครใจถูกซ้อม
แฉ ฮารุลัทธิประหลาด หลอกเหยื่อพยาบาลถูกขัง ล้างสมอง ใช้จิตวิทยาขั้นสูง ตำรวจเผยแจ้งข้อหายากเพราะทุกคนสมัครใจถูกควบคุม ถูกซ้อม
กำลังเป็นข่าวที่ถูกจับตาจากสังคมกับกรณีของ นายฮารุ อายุ 39 ปี สาวประเภทสองผู้นำลัทธิทรมานเหยื่อสุดอำมหิต กักขังพยาบาลและเด็กผู้เสียหาย ลงมือสั่งการซ้อมทารุณ น้ำร้อนราด ออกอุบายใช้หนี้ทิพย์ 140 ล้านบาท
ล่าสุด วันนี้ (19 ต.ค.65) ความคืบหน้าคดีลัทธิประหลาดของนายฮารุและลูกน้อง นายตรีเพชรรัตน อายุ 20 ปี ซึ่งทั้งสองถูกจับกุมตัวและสอบสวนถึงข้อเท็จจริงทั้งหมด อ้างอิงข้อมูลจากการให้สัมภาษณ์ของ พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ระบุ
ลัทธิหลอกพยาบาลนี้มีการใช้จิตวิทยาขั้นสูง โดยตอนที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุเจอเหยื่อทั้งหมด 5 ราย เป็นเด็ก 2 ราย ผู้ใหญ่ 3 ราย ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสามรายถูกโกนหัวและย้อมผมสีเขียว บริเวณใบหน้าถูกทำร้าย เหยื่อสองรายที่ถูกน้ำร้อนลวกเมื่อถูกถามว่าแผลเกิดจากอะไร เหยื่อทุกคนบอก เอาน้ำร้อนราดตัวเอง มีแค่เด็กที่พูดความจริงว่าใครสั่งให้ทำร้าย
ส่วนสภาพของเด็กที่ตอนนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์และนักจิตวิทยา ดวงตาของเด็กทั้ง 2 มีรอยฟกช้ำคล้ายถูกทำร้าย เมื่อถามว่าโดนอะไร เด็กตอบว่าโดนแม่ตบ ที่แม่ตบเพราะมีคนสั่งให้ตบ คนสั่งก็คือนายตรีเพชรรัตน์
ขณะที่กรณีเกิดความเข้าใจผิดว่าเด็กเป็นผู้หญิงทั้งหมด แต่ต่อมาทราบว่าเป็นเด็กชายและหญิงอย่างละคน โดยเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดนั้น แม่ของเด็กให้ข้อมูลว่าเป็นเพราะนายฮารุซึ่งเป็นสาวประเภทสอง อ้างว่า เด็กเกิดวันเดียวกันจึงอยากให้เป็นเหมือนกับตัวเองจึงแต่งตัวเป็นผู้หญิง
จากการสอบสวนพบว่าทุกคนไม่ติดใจเอาเรื่องผู้ต้องหา มีเพียงแม่เด็ก เมื่อได้สติ สัญชาตญาณความเป็นแม่กลับมา จึงอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผบก.สส.บช.น. ระบุว่า สำหรับการแจ้งข้อหาค่อนข้างยาก เพราะทุกคนสมัครใจถูกควบคุม ถูกซ้อม หรือถูกราดน้ำร้อน ทุกคนจะบอกว่าที่โดนกระทำเพราะตัวเขากระทำความผิด ใช้จิตวิทยาขั้นสูง ในทางจิตเวช จะทำให้มีความรู้สึกศรัทธา รู้สึกรักเป้าหมาย รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ผิด สมควรแล้วที่ถูกกระทำ แต่ด้วยความเป็นแม่เห็นลูกตัวเองถูกตบ ถูดราดน้ำร้อน จึงลุกขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากอดีตสามี