ช่อง 3 แฉ ทนายไก่หมุน พ่อค้าไก่หมุนปลอมตัวเป็นทนาย จ้างทนายคนอื่นมาว่าความให้ ก่อนหักหัวคิว มีผู้เสียหายแล้วอย่างน้อย 5 คน
รายการเรื่อง เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ของช่อง 3 ได้รายงานถึงกรณี ทนายไก่หมุน หรือ กรณีพ่อค้าไก่หมุนปลอมตัวเป็นทนาย ที่กลายเป็นเรื่องฮือฮาดังที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ทางรายการระบุว่า นาย พรเทพ กะเชนทร์ภักดิ์ หรือ ทนายไก่หมุน ได้พูดคุยกับผู้เสียหายคนหนึ่ง โดยผู้เสียหายได้ทวงถามหมายเลขคดี เพราะติดต่อไปศาลแล้วก็มีขอหมายเลขคดี ซึ่งทาง ทนายไก่หมุน ก็บอกว่าให้รอตนกลับไปกำแพงเพชรก่อน ผู้เสียหายก็ได้ถามต่อว่า เลขคดีที่ให้มาก่อนหน้านี้ มันเป็นคดียาเสพติด ซึ่งไม่ตรงกับคดีของเธอ
หลังจากนั้นผู้เสียหายก็รู้สึกไม่สบาย ไม่ถามหมายเลขคดี และทวงถามเรื่องเงินจากพ่อค้าไก่หมุนปลอมบัตรทนาย คาดว่าโต้เถียงกัน ก่อนที่ นาย พรเทพ พ่อค้าไก่หมุน จะบอกว่า “ก่อนศาลตัดสินพี่จ่าย 40,000 ยังไงก็จบ” “ฟ้องมาฟ้องกลับ”
พ่อค้าไก่หมุนปลอมบัตรทนาย ถูกจับในข้อหาปลอมคำพิพากษาศาลกำแพงเพชร โดยผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า เพิ่งปลอมเป็นทนายและก่อเหตุขึ้นว่าความในศาลเพียงครั้งเดียว โดยพ่อค้าไก่หมุนคนดังกล่าวยังได้มีการแต่งชุดครุยและโพสต์คลิปลงใน TikTok เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือด้วย
ทีมข่าวช่อง 3 ได้คุยกับทนายที่เปิดโปงเรื่องนี้ โดยผู้เสียหายได้จ้าง ทนายไก่หมุน ในข้อหาหมิ่นประมาท และเธอก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่มีความคืบหน้า และดูถูกเลื่อนตลอดด้วยข้ออ้างสารพัดทำให้เธอตัดสินใจเข้าปรึกษากับนาย ประพจน์ วงษ์เกื้อ ทนายตัวจริง
ทางทนายตัวจริงขอให้ผู้เสียหายบอกชื่อทนายมา พอเอาไปตรวจสอบ ทนายไก่หมุน ตอนแรกๆก็ไม่รู้สึกผิดปกติ เพราะดูมีความน่าเชื่อถือ จึงขอหมายเลขคดีว่าไปถึงไหนแล้ว ปรากฎว่าเป็นคดียาเสพติด ของอัยการคนอื่น และคู่ความอื่นๆ ไม่เกี่ยวกับคดีของเธอเลย
ทางทนายตัวจริงจึงไปขอดูสำนวนฟ้องกับพ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายความ ซึ่งนายพรเทพก็ได้เขียนสำนวนฟ้องจริง ทว่าเขียนไม่รู้เรื่อง จึงเอาหมายเลขทนายไปตรวจสอบ เจอแต่ไม่ใช่ทนายผู้ชาย แต่เป็นทนายผู้หญิง และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่านายพรเทพคือมีปัญหาทะเลาะวิวาท และจากการตรวจสอบพบว่าตอนนั้นนายพรเทพบอกตำรวจตนเป็น พ่อค้าไก่หมุน แทนที่จะเป็นทนาย
ผู้เสียหายเผยด้วยว่าเธอโอนเงินให้ทนายไก่หมุนไป 42,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายคน บางคนจ่ายไปเป็นแสน ตอนนี้มีผู้เสียหาย 5 ราย ไม่ทราบว่าที่มาไปหลอกมาอีกกี่หลาย
ทั้งนี้เชื่อว่า พรเทพ น่าจะมีความรู้พื้นฐานเพราะเคยฝึกงานที่สำนักงานกฎหมาย เชื่อว่า พอมีลูกความมาจ้างตนว่าความเพราะเข้าใจว่าเป็นทนาย ก็หักค่าหัวคิว แล้วไปจ้างทนายคนอื่นมาว่าความแทนตนในราคาที่ถูกกว่า ทำให้จับไม่ได้เสียที
