ฝั่ง ลูกสาวแจงความจริง กรณี ลูกแจ้งความจับพ่อเรื่องแมว เผยพ่อแค้นเข้าใจผิดว่าแมวทำกระต่ายตาย พร้อมงัดหลักฐานสู้
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนลูกสาวแจ้งความจับพ่อเรื่องแมวที่เป็นข่าวดังในขณะนี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กชี้แจงในมุมลูกแทนเพื่อน เนื่องจากเพื่อนไม่อยากประสงค์เปิดเผยตัวตน
ลูกสาวแจ้งความจับพ่อเรื่องแมว หรือ เจ้าฮาชิ แมวที่ถูกรถชนตาย ได้เล่าว่า “ลูกสาวต้องไปทำธุระที่กทม. จึงนำแมวฝากไว้กับแม่ 1 อาทิตย์ แล้วเตรียมกระบะทรายอาหารแมวให้พร้อม พร้อมใส่ AirTag ไว้ที่ปลอกคอแมว เลี้ยงไว้ในกรงนอกบ้าน ขับถ่ายเป็นที่ ไม่ได้ไปวุ่นวายในบ้านหรือวุ่นวายกับพ่อเลย
แล้วเราไม่คิดว่าการฝากแมวไว้กับครอบครัวแค่ไม่กี่วันจะเป็นเรื่องอะไรเลยนะคะ เพราะคิดว่ายังมีความไว้ใจให้กันจึงนำไปฝากไว้ แล้วอย่างที่บอก ฝากไว้กับแม่แปปเดียว ท่านก็เต็มใจดูแล แล้วแมวไม่ได้ไปยุ่งในบ้านหรือยุ่งกับพ่อเลย ใครจะไปคิดว่าจะทำกันได้ขนาดนี้
ซึ่งเหตุผลที่คุณบอกลูกคือ “มันทำกระต่ายกู กูเลยทำคืนบ้าง” คือที่บ้านจะมีกระต่ายอยู่ตัวนึงค่ะ อายุ 7 ปี แล้ววันนั้นฝนตกฟ้าร้อง กระต่ายวิ่งไปมาทั่วบ้าน คิดว่าน่าจะช็อคเพราะเสียงฟ้าผ่า จนตอนเช้าพบเป็นศพ พ่อเลยโทษว่าเพราะแมวทำ ทั้งๆที่แมวอยู่ในกรงนอกบ้าน แต่คือโมโหแมวไปแล้ว
เอาแมวขึ้นรถสามล้อ ไม่ใส่ตระกร้า เจตนาไปปล่อยวัด สุดท้ายแมวกระโดดลงโดนรถชนจนตาย เอา AirTag ไปโยนทิ้งลงน้ำ พอถามว่าแมวอยู่ไหนบอกไม่รู้ เจตนาอำพรางศพ ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ
พยานคนนอกที่เห็นเหตุการณ์ก็มีค่ะ หลักฐานก็ตามรูปที่แนบเลยค่ะ แล้วแมวต่อให้ไปปล่อยถึงที่วัดก็มีโอกาสรอดยากค่ะ
สมัยนี้มีสิ่งที่เรียกว่ามือถือนะคะ ไม่พอใจอะไรคุยกันได้ค่ะ ไม่ใช่แอบเอาแมวไปปล่อย พอตายก็บอกไม่ได้ตั้งใจ
อีกประเด็นที่มาบอกภายหลังว่าแมวกัดลูกชิ้นเลยโกรธ แม่บอกว่าไม่มีลูกชิ้นนะคะ เพราะวันนั้นไม่ได้ขายลูกชิ้นค่ะ
เราไม่อยากนอกประเด็นนะคะ แต่พวกคุณนอกประเด็นกันก่อน บ้านหลังนั้นที่อยู่ก็แม่เป็นคนจ่ายค่าเช่า น้ำไฟ แม่ดูแลหมด (แม่มีอาชีพค้าขายเหมือนกันค่ะไม่ได้ขอเงินพ่อใช้) เลี้ยงลูกมา 2 คน พ่ออารมณ์ร้อนชอบพูดจาหยาบคายกับคนในบ้าน แต่ที่แม่ยังอยู่ด้วยก็เพราะความเป็นห่วง (ตรงนี้เคารพการตัดสินใจของคุณแม่นะคะ เพราะแต่ละคนมีวิธีการรับมือในครอบครัวที่ต่างกัน) คนโตทำงานตั้งแต่ยังเด็ก กว่าจะมีวันนี้ได้ ถึงไม่ได้มีมากมายแต่นางก็ส่งเงินให้แม่ให้น้องตลอด จะมาบอกว่าลูกอยู่คอนโดหรูก็ไม่ถูกนะคะ ไม่ใช่เพราะพ่อเหรอคะที่ทำให้ลูกต้องไปดิ้นรนเผชิญชีวิตข้างนอกเอง เลี้ยงดูตัวเอง ส่งตัวเองเรียนจนจบได้ (เราพูดได้เต็มปากเพราะเราโตมากับเขา เป็นเพื่อนเขาไปที่บ้านก็เห็นตลอดว่าใครเป็นยังไง)
แล้วขอโทษนะคะ ตอนอยู่โรงพักคุณพูดกับลูกว่า ลูกโกรธพ่อเหรอ โกรธที่พ่อไม่เลี้ยงเหรอ แต่อยู่บ้านเรียกลูกว่าอีสั* ด่าสารพัดคำจะด่า ลูกเขาไม่ต้องการอะไรจากคุณแล้วค่ะ นอกจากความรับผิดชอบ
คุณไม่มีความรับผิดชอบในชีวิตที่คุณได้ให้กำเนิดมา อย่างน้อยก็ควรจะรับผิดชอบใน 1 ชีวิตที่คุณได้พรากไปนะคะ
ไม่ใช่ว่าเป็นพ่อแม่ = เป็นคนดีเสมอไปนะคะ อย่าเอาครอบครัวตัวเองเป็นบรรทัดฐานค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกบ้านจะมีพ่อแม่ที่ดีและรักลูกเหมือนกันหมด อย่างงี้บ้านที่ลูกโดนทารุณฯก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องความเป็นธรรมได้เลย ต้องยอมๆไปเพราะจะบาปเหรอคะ
ในกรณีที่มากล่าวหาว่าอยากประจาน ไม่ได้มีเจตนาจะประจานค่ะ แค่อยากแจ้งความ แต่ด้วยตัวกฎหมายลูกไม่สามารถแจ้งจับพ่อแม่ได้จึงให้มูลนิธิเข้ามาช่วยเหลือ แล้วมาบอกว่าเรียกนักข่าวมาเพื่อประจานพ่อ คือนักข่าว ลูกไม่ได้เรียกมาค่ะ เขาแค่มาทำข่าวตามหน้าที่นะคะ
มันไม่สนุกและไม่มีความสุขเลยค่ะ การที่เห็นคนในครอบครัวโดนจับ แต่คิดว่าการที่คนคนนึงจะแจ้งจับคนในครอบครัวได้เพราะแค่โดนทำร้ายจิตใจเพียงครั้งเดียวเหรอคะ กับคนบางคนเขาไม่รู้หรอกค่ะว่าตัวเองผิดอะไรจนกว่าจะได้รับผลของการกระทำ บ้านเมืองมีขื่อมีแปรถูกมั้ยคะ
เลิกโกหกเถอะค่ะ ทางลูกก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตน คุณบอกว่าคนเป็นพ่ออายจนไม่กล้าออกจากบ้าน แต่ไม่มีใครรู้นะคะว่าข่าวนี้พูดถึงใคร มีแต่พวกคุณที่พยายามจะเปิดเผยตัวตนกันก่อน
ส่วนคนที่อ่านข่าวเราบอกได้แค่ว่าใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อนะคะ คุณจะเชื่อเราหรือไม่ก็ตามแต่จะวิเคราะห์เลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
ทั้งนี้หลังโพสต์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้แชร์ต่อออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมแสดงความเห็นต่างๆกับเหตุลูกแจ้งจับพ่อปล่อยแมวกันอย่างกว้างขวาง
คดีลูกแจ้งจับพ่อเอาแมวไปปล่อยจนตาย เปิดข้อกฎหมายทำไมฟ้องเองไม่ได้
