ครม. มีมติเห็นชอบ หลักการนโยบายอุตสาหกรรมเหมืองแร่ โดยภายในระยะแรก ให้ปรับมาตรการส่งเสริมการลุงทุนและสิทธิประโยชน์ 3 กลุ่มกิจการ
หลักการนโยบายอุตสาหกรรมเหมืองแร่ – (2 ส.ค. 2565) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการใช้แร่สูงขึ้น ทั้งแร่โลหะพื้นฐาน โลหะมีค่า แร่หายาก และแร่อุตสาหกรรมอื่นๆ
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้า การส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในปี 2563 มูลค่าเพิ่มของการทำเหมืองแร่คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังประสบปัญหาเกี่ยวกับแร่ในด้านต่างๆ อาทิ ต้องพึ่งพาการนำเข้าแร่จากต่างประเทศ ขาดการวิจัยแลพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตจากแร่ ขาดมาตรการและแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมแหล่งวัตถุดิบในกระบวนการผลิต และขาดการลงทุนเพื่อลดผลกระทบจากการทำเหมือง
วันนี้ ครม.จึงมีมติเห็นชอบในหลักการนโยบายด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยระยะแรกให้ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมถึงกำหนดสิทธิประโยชน์ให้เหมาะสม ซึ่งแบ่งกิจการที่ต้องการส่งเสริมออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย
1. กลุ่มกิจการสำรวจแร่
2. กลุ่มกิจการทำเหมืองแร่และหรือแต่งแร่
3. กลุ่มกิจการถลุงแร่หรือประกอบโลหกรรม
พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกระทรวงอุตสาหกรรม ประสานความร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสมต่อไป
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ