เปิดเงื่อนไข “ช้างศึก” U19 กับโอกาสเข้ารอบศึกชิงแชมป์อาเซียน
เย็นวันนี้ 10 ก.ค. เวลา 20.00 น. ทีมชาติไทย ชุด U19 จะลงทำการแข่งขันฟุตบอลรายการ ชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย โดยมีงานหนักคือการต้องเจอกับคู่ปรับอย่าง เวียดนาม ที่รั้งจ่าฝูงอยู่ ณ เวลานี้
>> ดูผลฟุตบอลสด-ไลฟ์สกอร์คลิกที่นี่ <<
สถานการณ์ปัจจุบัน หลังผ่านไป 4 นัด เวียดนาม นำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี 10 คะแนน เท่ากับ ไทย แต่ประตูได้เสียดีกว่า ตามมาด้วยอินโดนีเซียที่รั้งอันดับ 3 ด้วยการมี 8 คะแนน ส่วนเมียนมา, ฟิลิปปินส์ และ บรูไน ตกรอบ ไปเรียบร้อยแล้ว
คลิกอ่าน : อัปเดตล่าสุด ตารางคะแนน ฟุตบอล U19 ชิงแชมป์อาเซียน ช้างศึกรั้งรองจ่าฝูง
และจากการแข่งขันนัดที่แล้ว ทีมชาติไทย ชนะบรูไนได้เพียงสองลูก ทำให้ยังถือว่าเป็นงานหนักในการผ่านเข้ารอบ เนื่องจากหากพลาดท่าแพ้ในเกมนี้ อินโดนีเซีย ก็มีสิทธิ์ที่จะแซงผ่านเข้ารอบไปได้เช่นกัน วันนี้ ทีมงาน The Thaiger ขอพาแฟนบอลชาวไทยมาดูเงื่อนไขของ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ U19 ชิงแชมป์อาเซียนกันครับ
คลิกอ่าน : ผลบอลย้อนหลัง ช้างศึก U19 ชนะ บรูไน ลุ้นเข้ารอบกับเวียดนาม นัดหน้า ศึกชิงแชมป์อาเซียน
เงื่อนไขการเข้ารอบล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขัน สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน ได้แจ้งว่า จะมีการนับเฮดทูเฮด ในกรณีที่มีสามทีมมีแต้มเท่ากัน โดยเงื่อนไข มีดังนี้
ทีมชาติไทย ชนะ
- จะเข้ารอบทันทีในฐานะแชมป์ของกลุ่มเอ โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันอีกคู่ระหว่าง อินโดนีเซีย กับ เมียนมา
ทีมชาติไทย เสมอ
- เสมอ 0-0 แล้วอินโดนีเซีย เสมอหรือแพ้ เมียนมา ทีมชาติไทย จะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม
- เสมอ 0-0 แล้ว อินโดนีเซีย ชนะ เมียนมา ทีมชาติไทย จะจบอันดับ 3 ของกลุ่มและตกรอบทันที
- เสมอ แบบมีสกอร์ (วัดจากกฏมินิลีก) ทีมชาติไทย จะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม โดยเวียดนามจะเป็นแชมป์กลุ่มด้วยการมีประตูได้เสียที่ดีกว่า โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันคู่ของ อินโดนีเซีย กับ เมียนมา
ทีมชาติไทย แพ้
- หากอินโดนีเซีย เสมอหรือแพ้ เมียนมา ทีมชาติไทย จะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม
- หาก อินโดนีเซีย ชนะ ทีมชาติไทย จะจบอันดับ 3 ของกลุ่มและตกรอบทันที
สำหรับการแข่งขันนัดสุดท้าย สองคู่ที่มีผลจะเตะพร้อมกันในวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 เวลา 20.00 น.
– เวียดนาม จะพบกับ ไทย ที่สนาม มัดย่า เสนายัน
– อินโดนีเซีย จะพบกับ เมียนมา ที่สนาม แพ็ทริอ็อต คันดราบาก้า
คลิกอ่านพรีวิวก่อนเกม : ที่นี่
ขอบคุณภาพจาก : ฟุตบอลทีมชาติไทย