ปลดล็อกกัญชา และผลประโยชน์ทางการแพทย์

Thaiger Medicalเผยแพร่: 09 มิ.ย. 2565 17:27 น.| อัปเดต: 09 มิ.ย. 2565 17:27 น.

120

ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในวงการแพทย์ เมื่อกระทรวงสาธารณสุขประกาศ ปลดล็อกกัญชา ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชาใช้เอง หรือปลูกในเชิงพาณิชย์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องลงทะเบียนแจ้งผ่านแอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” โดยส่วนที่ได้รับการยกเว้นว่าไม่เป็นสารเสพติดนั้นได้แก่ ช่อดอก เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบ ไม่ว่าสดหรือแห้ง กากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชาและยางกัญชา แต่สารสกัดจากกัญชา กัญชง ที่มีปริมาณสาร THC เกิน 0.2% ที่ยังถือเป็นยาเสพติด

ทั้งนี้การแปรรูปกัญชาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทั้งอาหาร เครื่องสำอาง และยาสมุนไพร ยังคงต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้อง

ปลดล็อก กัญชาทางการแพทย์ ทางเลือกใหม่เพื่อการผ่อนคลาย

กัญชาเสรีและสรรพคุณทางการแพทย์

กัญชาเป็นพืชล้มลุก มีขนาดลำต้นสูงไม่เกิน 2 เมตร ใบมีแฉกลึกแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ สรรพคุณคือมีผลออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ถูกใช้เป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อนจะถูกควบคุมให้เป็นยาเสพติดและถูกระงับใช้ในวงการแพทย์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีชาวบ้านนำกัญชามาใช้เป็นยารักษาอาการบางอย่าง จนกระทั่งได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับกัญชา เพื่อศึกษาผลประโยชน์ทางการแพทย์ และพบว่ากัญชามีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดแล้วเกิดการคลื่นไส้-อาเจียน ช่วยให้ผ่อนคลายนอนหลับสบายขึ้น

และที่สำคัญมีงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากกัญชาอาจช่วยในการรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย

สารในกัญชาและการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

ในกัญชามีสารประกอบอย่างต่ำ 60 ชนิด นิยมสกัดจากช่อดอกตัวเมียที่ยังไม่ถูกผสมเกสร โดยสารที่รู้จักกันดีคือสาร THC ที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้รู้สึกเคลิ้มหรือเมา และสาร CBD ซึ่งมีฤทธิ์ระงับประสาท ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยกัญชาสามารถทำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ดังต่อไปนี้

ลดอาการคลื่นไส้ – อาเจียน สำหรับผู้ป่วยที่ทำเคมีบำบัด
ช่วยรักษาโรคลมชัก หรือผู้ป่วยที่ดื้อต่อการรักษาโรคลมชักด้วยวิธีการต่าง ๆ
ช่วยรักษาภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
เป็นยาแก้ปวด ยดลดการอักเสบ และยาต้านออกซิเดชั่น
ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสบายขึ้น

ปัจจุบันมีการปลดล็อกกัญชา ใน 69 ประเทศ โดยแต่ละประเทศก็มีเงื่อนไขการใช้กัญชาที่แตกต่างกัน และมีอย่างน้อย 33 ประเทศที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น ซึ่งบางประเทศจะต้องได้รับความยินยอมจากรัฐและมีใบรับรองแพทย์อย่างถูกกฎหมาย

ใช้กัญชาอย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์และความปลอดภัย

กัญชาเสรีถือเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย เพราะกัญชามีสรรพคุณที่สามารถผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องมีการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมเพื่อผลประโยชน์ทางการแพทย์ เพราะถึงแม้จะเป็นพืชที่มีสรรพคุณดี แต่หากใช้มากเกินความจำเป็นก็อาจกลายเป็นโทษทั้งต่อตนเองและคนรอบตัว เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์กดประสาททำให้เกิดอาการมึนเมา ทางที่ดีที่สุดคือควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัย