สับปะรดสีชมพู ขายในประเทศไทยผิดกฎหมายหรือไม่?
หลังจากที่มีการแพร่หลายของข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สับปะรดสีชมพู และมีการตั้งคำถามว่าหากมีการขายในไทยนั้น ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า ผิดจริง
(7 มิ.ย. 2565) ตามที่มีข้อมูลในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องขาย สับปะรดสีชมพู ในไทย ผิดกฎหมาย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่ามีการพบสับปะรดเนื้อสีชมพูซึ่งเป็นพืชตัดต่อพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ (GMO) ที่เป็นการทดลองของบริษัท Del Monte ได้ปลูกในประเทศคอสตาริกา และเป็นพืชจีเอ็มโอ โดยได้ให้กรมวิชาการเกษตรตรวจเข้มทุกพื้นที่ เพราะประเทศไทยมีนโยบายปลอดพืชจีเอ็มโอ ซึ่งไม่มีการอนุญาตนำเข้าแต่อย่างใด ดังนั้นฝากเตือนประชาชนว่าอย่านำเข้าพืชดังกล่าวหรือสนับสนุนในการซื้อขาย เพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศไทย
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เพราะได้มีการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และจะยิ่งเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กันและกัน เพราะลำพังภาครัฐบางครั้ง ก็จำกัดด้วยกำลังคน โดยเฉพาะยุคที่การซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ที่มีการส่งสินค้ากันมาก ทำให้สุ่มเสี่ยงกับการส่งของผิดกกฎหมาย ดังนั้นฝากประชาชนว่าใครพบเห็นให้รีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ ทันที
อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนผู้ลักลอบนำเข้าว่า หากพบ ท่านจะมีโทษตามกฎหมายตามพรบ. กักพืช พ.ศ. 2507 ที่ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น กรณีกรมวิชาการเกษตรตรวจพบว่ามีการลักลอบซื้อ – ขาย หรือปลูก สามารถยึด อายัดและทำลายได้ทันที โดยผู้ซื้อ – ผู้ขาย เรียกร้องค่าเสียหายจากใครไม่ได้ ดังนั้นมีแต่เสียด้านเดียว จึงขอวอนพี่น้องประชาชนว่าอย่าสนับสนุนพืชดังกล่าว ซึ่งกรมฯ จะมีการจัดทำโปสเตอร์แสดงชนิดพืชสับปะรดสีชมพู เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยพี่น้องประชาชนให้ได้ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.doa.go.th/ หรือโทร. 0-2579-7996
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
แหล่งที่มาของข่าว : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย
สามารถติดตามข่าวทั่วไปเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวทั่วไป