ฟุตบอลไทย

ยืนยันแล้ว! ช้างศึก ทีมชาติไทย อุ่นเครื่อง เนปาล-ซูรินาม ปลายเดือนนี้

สมาคกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันโปรแกรมของทัพ ช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ออกมาแล้ว โดยจะพบกับ เนปาล และ ซูรินาม ในช่วง ฟีฟ่า เดย์ ปลายเดือนนี้

 

Advertisements

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้วางแผนร่วมกับ มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน ในการจัดโปรแกรมการอุ่นเครื่องในช่วงเดือนมีนาคม และ พฤษภาคม 2565 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ก่อนเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก ในเดือนมิถุนายนนี้

สำหรับ ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีแผนเรียกนักกีฬาเข้าแคมป์เก็บตัว ระหว่างวันที่ 21-29 มีนาคม ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ โดยจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง จำนวน 2 แมตช์ ดังนี้

– แมตช์แรก วันที่ 24 มีนาคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติเนปาล (อันดับที่ 167 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง) เวลา​19.00 น.​ ณ​ สนามชลบุรี สเตเดียม​

ถ่ายทอดสดทางช่อง AIS PLAY​ และ​ ไทยรัฐทีวี

Advertisements

– แมตช์สอง วันที่ 27 มีนาคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติ ซูรินาม (อันดับที่ 140 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง) เวลา​19.00​ น. สนามบีจี​ สเตเดียม​

ถ่ายทอดสดทางช่อง AIS PLAY​ และ​ ไทยรัฐทีวี

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้เตรียมแผนการเก็บตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปประเทศอุซเบกิสถาน ทำการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพรอบคัดเลือก โดยจะพิจารณาคัดเลือกทีมในทวีปเอเชีย ที่สมาคมฯได้รับการติดต่อว่าจะเดินทางมาเก็บตัวในประเทศไทยในช่วงดังกล่าว โดยมีแผนที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องรอบนี้ในต่างจังหวัด โดยจะมีการประสานและประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป

สำหรับ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีทัวร์นาเมนต์สำคัญ สองรายการ ในปี 2022 ดังนี้

– ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบคัดเลือก ที่ ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 8-14 มิถุนายน 2565 โดยทีมชาติไทย อยู่กลุ่มซี ร่วมกับ อุซเบกิสถาน (เจ้าภาพ), มัลดีฟส์ และ ศรีลังกา

– ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ในช่วงเดือนธันวาคม 2565

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button