ข่าวข่าวภูมิภาค

กลับลำ! สุวรรณภูมิ ชี้แจงไม่มีกฎ ห้ามพกหน้ากากอนามัยเกิน 30 ชิ้น ขณะไป ตปท.

สนามบินสุวรรณภูมิ กลับลำ ชี้แจงไม่มี กฎห้ามพกหน้ากากอนามัยเกิน 30 ชิ้น ขณะไป ตปท. อ้างชี้แจงคาดเคลื่อน

นาย กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ออกมาแถลงทำความเข้าใจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีประกาศห้ามพกหน้ากากอนามัยออกนอกประเทศเกิน 30 ชิ้น เว้นแต่จะเป็นเจ้าหน้าที่แพทย์ที่จะพกได้ไม่เกิน 50 ชิ้น เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุม

Advertisements

โดยนาย กิตติพงศ์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยเพจดังกล่าว นำข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อความนี้มายังบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่หน้ากากอนามัยมีปัญหาขาดแคลนในประเทศ หรือปีที่ผ่านมา แต่เอกสารเพิ่งมาถึง ทอท. เมื่อเดือนมกราคม 2565 เมื่อเพจมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลนี้ออกไปทำให้เกิดความสับสน เบื้องต้นได้สั่งการให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ลบข้อมูลนี้จากเพจไปแล้ว

ท่าอากาศยานสุวรรณภุมิ ขอยืนยันว่าจะไม่มีการตรวจค้นบังคับใช้กฎตามประกาศดังกล่าวแน่นอน เพราะเข้าใจดีว่าการพกพาหน้ากากอนามัยจำนวนมากน้อยขึ้นอยู่กับความจำเป็นของผู้ใช้ จะไปกำหนดในลักษณะ 30 ชิ้น หรือ 50 ชิ้น ไม่ได้ และสถานการณ์ปัจจุบันก็ไม่ได้มีปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยในประเทศแต่อย่างใด

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ได้มีการเผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 5 พ.ศ.2565 ซึ่งระบุว่า ให้สินค้าดังต่อไปนี้ เป็นสินค้าควบคุม ได้แก้ หน้ากากอนามัย, ใยสังเคราะห์ Polypropylene (Spunbond) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย, ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ, เศษกระดาษ และกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีก และไก่ เนื้อไก่ มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 1 ปี

ซึ่งผู้กระทำผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542

Advertisements

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button