‘เสือ – กวาง’ โพสต์ไอจี วอน ‘แม่กานต์’ ไปหาหมอโรคซึมเศร้า-ไม่ต้องโพสต์ออกสื่อ
‘เสือ – กวาง’ โพสต์ไอจี วอนขอให้ ‘แม่กานต์’ ไปหาหมอโรคซึมเศร้า ไม่เข้าใจทำแม่ต้องโพสต์ออกสื่อ ปมดราม่าครอบครัวยังไม่จบ
เป็นมหากาพย์เรื่องราวของครอบครัวที่ยังไม่จบ สำหรับครอบครัวของนักร้อง เสก โลโซ ล่าสุด (9 ม.ค. 65) ‘เสือ – กวาง’ โพสต์ไอจี ถึงคนเป็นแม่ถึงเรื่องอาการซึมเศร้าที่คนรอบตัวรู้ เห็นอาการ แต่แม่กลับไม่ยอมไปหาหมอ
เสือ เสฏกานต์ ได้ออกมาโพสต์เหตุผลที่อยากให้แม่ไปตรวจสุขภาพจิต เนื่องจากเชื่อว่าป่วยมาหลายปี เพราะเห็นการใช้ชีวิต การทำงาน การตัดสินใจ อารมณ์ของ กานต์ วิภากร ผู้เป็นแม่มาตลอด พร้อมบอกว่าต้องออกมาพูดบ้าง เพราะแม่โพสต์ให้คนรับรู้ตลอด ไม่เหมือนเป็นเรื่องภายในครอบครัวเลย ดังนี้
“ผมอยากตอบในเรื่องไปตรวจสุขภาพจิตก่อนนะครับ ตอนนี้มีประเด็นมาว่า เสือบอกให้แม่ไปตรวจ แต่ก็ไม่ยอมพาไปซักที
แม่โพสต์ให้ไปรับ ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนึง ตอนวันพฤหัสบดี ที่ 6 ที่ผ่านมา ก่อนอื่นเลย ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องโพสต์นัดกันแบบนี้เลย ถ้าอยากไปทำไมต้องไปให้คนรู้ ให้คนทำข่าว ผมเห็นว่านี่ไม่ใช่อะไรที่ต้องเป็นข้อมูลที่ต้อง public แบบนี้เลย อีกอย่างนึงที่ผมอยากจะบอกคือผมอยากให้ไปตรวจกันที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา รพ.นี้เป็นที่เข้มงวดในการตรวจและรักษา ตรวจทุกอย่างได้ดีและละเอียด หมอชำนาญเรื่องจิตเวชมากที่สุดในประเทศ และเป็นที่แรกที่แม่เสนอมาด้วย น้องก็เห็นด้วยกับที่นี้ ที่สำคัญสุดคุณพ่อก็เคยมารักษาที่นี่แล้วผมเห็นว่ามีการบำบัดรักษาจริงจัง ผมไม่ได้ว่าอีกที่นึงไม่ดีนะครับ แต่ถ้าจะตรวจทีเดียวให้ชัวร์ผมเชื่อใจที่นี่มากที่สุด แม่ส่งมาว่าพ่อไม่ให้ไปที่สมเด็จฯ แต่ผมโทรไปปรึกษาพ่อแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้ห้ามหรือมีอะไรกับที่นี่เลย ตอนที่พ่อไปบำบัดเขาก็ไม่ได้มีทางเลือก รพ.ด้วยเลย แม่โพสต์ว่ายอมลูกตั้งแต่เกิด งั้นยอมไปตรวจที่ที่ผมว่าดีและเหมาะสมที่สุดจะดีกว่า
เหตุผลที่ผมเชื่อว่าเขาป่วย ผมอยากบอกก่อนว่าผมไม่ได้ว่าแม่ป่วยหรือเป็นบ้าอะไรตามที่แม่อาจจะเคยเห็นออนไลน์ แต่ผมสังเกตมาหลายๆ ปีมาก ทั้งเรื่องการงาน การคุย การใช้ชีวิต การตัดสินใจและอารมณ์ต่าง ๆ ที่ผมเห็นมาเรื่อยๆ ผมไม่ใช่คนเดียวแน่นอนที่สังเกตอะไรพวกนี้ได้ ครอบครัวและคนใกล้ชิดมากมายก็รู้และเห็นด้วยกันหมดแต่ไม่มีใครกล้าออกมาบอกหรือพูดได้ ในวันที่เกิดเหตุการณ์ล่าสุดทำให้ผมต้องออกมาข้างนอกเป็นวันที่ผมเห็นสีหน้าและอารมณ์ที่ผมไม่อยากที่จะต้องเห็นเลย รู้เลยว่าไม่ปกติจริง ๆ ที่ที่เป็นบ้านไม่ปลอดภัยจริง ๆ ผมไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้ แต่ผมไม่อยากให้มันต้องหนักไปมากกว่านี้แล้ว
แม่ก็บอกต่อมาให้เอาน้องกวางไปตรวจด้วย ถ้าจะให้สบายใจผมก็โอเค แต่ผมไม่เห็นว่าการตรวจสุขภาพจิตเป็นอะไรที่ต้องท้ากันเลย ถ้าจริงใจตรวจทำไมต้องคิดว่าคนอื่นป่วยด้วย ที่คิดว่าตัวเองป่วยการตรวจและบำบัดเป็นการดูแลตัวเองที่ดีมาก ไม่ใช่การเอาชนะคนอื่นเลย พูดถึงกวางนะครับ ถ้าจะให้เขาตรวจ ผมบอกตรงๆ เลยว่าน้องกวางเป็นโรคทางสุขภาพจิตมาเป็นหลายปีแล้ว รวมไปถึง Depression, Anxiety Disorder และ ADHD แต่น้องก็ยอมรักษาและขยันในการทำให้ตัวเองดีขึ้นจนถึงวันนี้ เขาเป็นคนที่เก่งมากและแข็งแรกมาก จริง ๆ น้องเป็นโรคพวกนี้เพราะอะไรก็ขอให้น้องพูดเองเรื่องนี้ดีกว่า
ผมสนับสนุนให้คนเราคุยกันเรื่องสุขภาพจิต mental health ให้มากขึ้น มันไม่ใช่อะไรที่ต้องอายเลย การที่เราคิดว่าเราป่วยหรือรู้ว่าป่วยทางจิตไม่ใช่อะไรที่ไม่ดีเลย เราควรกล้าคุยกันเรื่องนี้และช่วยกันสู้ต่อไปให้สุขภาพเราดีขึ้น
สุดท้ายเลย การที่ผมจะต้องออกมาโพสต์แบบนี้เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเลย ผมเห็นว่าเรื่องครอบครัวไม่ควรต้องออกมาในที่สาธารณะขนาดนี้ (ผมรู้ว่าผมออรายการและแถลงข่าวตอนวันที่ 4 ม.ค. ผมทำไปเพื่อชี้แจงประเด็นกล่าวหาที่ไม่ถูกต้องที่ได้รับมา) แต่ในกรณีที่แม่โพสต์เยอะมาก และผมไม่พูดอะไรออกมาเลย ผมก็เลยต้องมาพูดให้แม่และทุกคนรับฟังด้วย เพราะหลายคนก็ได้เห็นและตัดสินใจในคำของฝ่ายเดียว สิ่งที่คนพิมพ์มาหาผมเยอะๆ คุณไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นเลยจริง ๆ คุณไม่รู้ว่าผมโดนอะไรมาและเจออะไรมา ตามที่ผมบอก แต่ละครอบครัวมันไม่เหมือนกันเลย คุณอาจจะเห็นเหตุการณ์ของครอบครัวผมตามสื่อ แต่ชีวิตจริงมันลึกกว่านั้นเยอะ ชีวิตจริงของผมมันไม่ได้อยู่แต่ในข่าวนะครับ
เสือพร้อมที่จะพาแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา วันที่แม่กลับมาจากต่างจังหวัดก็ดี ผมไม่มีรถเพราะแม่ยึดไปแล้ว จะให้เอาแท็กซี่ไปรับก็เสี่ยงโควิดอันตรายมากช่วงนี้ ปลอดภัยที่สุด คือไปเจอกันที่ รพ. เลย เฉพาะพ่อแม่และลูกๆ มาเจอกันไม่ต้องมีบุคคลที่3 ถ้าไม่ได้จริง ๆ เดี๋ยวหาทางกัน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เรื่องทุกอย่างผมปรึกษากันกับน้องกวางโดยตรงและเห็นตรงกัน ไม่มีใครมาเกี่ยวข้องหรือมาปั่นความคิด เรื่องและประเด็นอื่นที่เกิดขึ้น ถ้ามีโอกาสผมจะบอกทุกอย่างทีเดียวเลยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจและให้กำลังใจมาตลอดมาก ๆ เลยนะครับ จากใจผม”
ส่วน กวาง กรกวี ก็ได้ออกมาโพสต์ไอจีถึงประเด็นนี้เช่นเดียวกันว่า
“การที่คนคนนึงป่วยไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย คนเราเป็นมนุษย์ก็ต้องมีเรื่องที่ทำให้เราเจ็บ เปลี่ยนไปอยู่แล้ว
การที่คนใช้คำว่า “ป่วย” มาเป็นคำเหยียดนี่มันไม่ถูกต้องเลยค่ะ ทำแบบนี้มันทำให้คนที่ป่วยไม่ยอมรับ อาย ซึ่งจะทำให้ทั้งผู้ป่วยและคนรอบตัวต้องเจ็บปวดไปด้วย
ถ้าหากเรายอมรับเรื่องนี้ได้ ยอมรักษา ใจดีกับตัวเอง จิตใจก็จะแข็งแรงขึ้นและก็รักคนที่เรารักอย่าง healthty ได้ค่ะ
ของตัวกวาง
พร้อมทั้งเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองว่าเคยไปตรวจมาจะมี depression (ซึมเศร้า) (โรควิตกกังวล) (โรคสมาธิสั้น – ซึ่งชื่อเรียกภาษาไทยอาจทำให้หลายคนคิดว่ามันก็แค่สมาธิสั้น) แต่ไม่ใช่ค่ะ มีคุณหมอคนหนึ่งเคยบอกกวางว่าจะมีอาการคล้าย bipolar หมอหลายๆ คนจึงวินิจฉัยว่าคนที่เป็น ADHD เป็น bipolar ค่ะ อันนี้ก็ ถ้าไปหาอ่านดูก็คงเข้าใจได้เยอะขึ้นนะคะ) ถ้าต้องไปตรวจอีก ก็คงได้ผลมาเหมือนเดิมหรือไม่ก็น้อยลง เพราะว่ากวางพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นให้ได้ และมี support system (เช่นพี่เสือ) ที่ดี จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ
อยากให้ทุกๆ คนมองโลกให้กว้างขึ้น มองในมุมมองของคนอื่นให้ได้ หน้าตาของคนเราก็ต่างกันอยู่แล้ว จะให้นิสัย ชีวิต ประสบการณ์ ของทุกคนเหมือนกันหมดก็คงไม่ได้
ในความคิดของกวางเองคือ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะเข้าใจกัน รักกัน 100% ได้ แค้ถ้าเรายอมรับในสิ่งที่เราไม่เข้าใจได้คงคนอีกคนหนึ่ง เราก็จะอยู่ด้วยกันได้
—
อีกอย่างที่อยากให้เข้าใจคือ กวางไม่ใช่คนของสังคม แต่เป็นแค่คนที่บังเอินเกิดมาเป็นลูกของนักดนตรีที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง และก็เป็นคุณพ่อที่ดีที่สุดค่ะ กวางไม่ชอบอยู่ในสายตาของสังคม จึงไม่เล่นโซเชี่ยลมีเดียจนมาถึงวันนี้ ที่ต้องพยายามทำให้คนรู้ถึงมุมมองของกวางค่ะ
เพราะเหตุนี้ กวางจะไม่อ่านหรือตอบไดเร็ก และจะปิดคอมเม้นนะคะ
ขอบคุณค่ะ”
- ‘กานต์’ โพสต์ขอบคุณ ‘หนุ่ม กรรชัย’ ขอฝาก ‘เสือ’ ด้วย รับผิดเองทุกอย่าง
- ‘เอ็มมี่’ วอน ‘เสือ’ พาแม่ ‘กานต์’ ไปตรวจสุขภาพจิต บอก ไปทำหน้าที่ลูกที่แม่รัก