‘พิพัฒน์’ ยัน โอไมครอน ไม่กระทบเปิดประเทศ
พิพัฒน์ ตอบหลังถูกถาม ยืนยันว่า โอไมครอน ไม่กระทบเปิดประเทศ เผยยังไม่มีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐฯถอนเที่ยวประเทศไทย
นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย ได้ถามนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม
โดยวรศิษฎ์ได้ถามว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาว่าส่งผลต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างไร และมีแผนขยายขอบเขตโครงการนี้อย่างไรบ้าง แต่ขณะนี้โควิด-19 เกิดสายพันธุ์ใหม่ คือสายพันธุ์ โอไมครอน ซึ่งระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า และขณะนี้หลายประเทศเริ่มยกระดับมาตรการป้องกันแล้ว จึงอยากทราบว่าทางกระทรวงฯ ประเมินสถานการณ์นี้และเตรียมแผนรับมือไว้อย่างไรเพื่อสร้างความมั่นใจในการท่องเที่ยวของประเทศ
ด้านนายพิพัฒน์ ชี้แจงว่า ปี 2565 เชื่อว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.3-1.8 ล้านล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติท่องเที่ยว ประมาณ 10-15 ล้านคน โดยมีปัจจัยสำคัญคือ การเปิดชายแดนเพื่อนบ้าน รวมถึงจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น
ส่วนการแพร่ของสายพันธุ์โอไมครอน ยืนยันว่าขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปและอเมริกายังไม่มีถอนการเดินทาง ส่วนที่พบผู้ที่มาจากแอฟริกา ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบ เพื่อให้ผู้เดินทางทุกคนเข้ารับการตรวจหาเชื้อและตรวจสอบประวัติแล้ว และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ประเทศเราไม่มีนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศ แถบแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับสายพันธุ์โอไมครอน จะคิดเป็นลบ หรือบวกก็ได้ ตราบใดที่ประเทศเราโดยกระทรวงสาธารณสุข และคนไทยทั้งชาติ รณรงค์ป้องกัน เมื่อผลที่กระจายข่าวออกไป จนถึงกลางเดือนธ.ค.เป็นอย่างเร็ว หรือสิ้นเดือนธ.ค. เป็นอย่างช้า หากผลออกมาในทิศทางที่ดี มั่นใจว่าจะตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย เพราะจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พบว่าในจังหวัดติดเชื้อ 100-300 คน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ท่องเที่ยว 6 หมื่นคน ติดเชื้อเฝ้าระวัง ระยะ 1-3 ประมาณ 200 คน หรือ 0.3% และไม่มีการแพร่ระบาดระหว่างกัน คือคนไทยติดหมู่คนไทย
ส่วนต่างชาติที่เข้ามาในโครงการภูเก็ต ถูกคัดกรองและเข้ารับการรักษา นอกจากนั้นการเปิดท่องเที่ยว ตั้งแต่ 1-30 พ.ย. มีนักท่องเที่ยว 1 แสนคน แต่มีแค่ 0.1% ที่ติดเชื้อ ซึ่งตอบโจทย์ว่านักท่องเที่ยวในประเทศไทยดูแลตัวเองเป็นอย่างดี