ย้ำเตือนอีกครั้งกับการที่ กรมสรรพากร ได้เริ่มต้นทำการจัดเก็บ ภาษี e-service สำหรับผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ ภายในวันนี้ (1 ก.ย.)
วันที่ 1 ก.ย. นี้ ถือเป็นวันแรกที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (ภาษี e-service) ของ กรมสรรพากร ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ. 2564 หรือ พ.ร.บ. e-Service เริ่มมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย
สำหรับภาษี e-Service จะจัดเก็บภาษีจากผู้ให้บริการ e-Service จากต่างประเทศ ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (7%) นำส่งให้กรมสรรพากร แบ่งออกเป็น 5 ประเภท
- ธุรกิจที่มีรายได้จากค่าโฆษณา เช่น Facebook, YouTube, Google
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่เปิดให้ซื้อขายผ่านออนไลน์ เช่น Amazon, Ebay
- ธุรกิจตัวกลางที่เป็นเอเจนซี่ ซื้อ – ขาย ตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรม เช่น Booking.com, Agoda, Airbnb เป็นต้น
- แพลตฟอร์มตัวกลางระหว่างคนซื้อ – คนขาย โดยให้บริการเรียกแท็กซี่ หรือฟู้ดดีลิเวอรี เช่น Grab
- ธุรกิจบริการออนไลน์ที่มีรายได้จากระบบสมาชิก โดยให้บริการดูหนัง ฟังเพลง เช่น Netflix, Spotify, Apple Play, Zoom เป็นต้น
ซึ่งการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากแพลตฟอร์มดิจิทัลจากต่างประเทศ เป็นเรื่องที่หน่วยงานจัดเก็บภาษีทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการภายในประเทศที่ต้องเสียภาษี และไทยเป็น 1 ใน 60 กว่าประเทศทั่วโลกที่ได้เริ่มดำเนินการเก็บภาษีประเภทนี้ โดยกรมสรรพากรประเมินว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – ไทยคู่ฟ้า
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ
- สรรพากร พร้อมเริ่มจัดเก็บ ภาษี e-Service ในวันที่ 1 ก.ย. นี้
- ธ.ก.ส. ประมาณการณ์ ราคาสินค้าเกษตร ประจำ เดือนกันยายน