ศบค. แจงหลัง สั่งซื้อซิโนแวค เพิ่มอีก 12 ล้านโดส ชี้ป้องกันติดเชื้อได้ 72%
พญ.อภิสมัย ออกมาชี้แจงหลังถูกวิจารณ์หนักจากการ สั่งซื้อซิโนแวค เพิ่มอีก 12 ล้านโดส ชี้วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสได้ 72%
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกมาตอบข้อซักถามกรณีที่ทาง ศบค. สั่งซื้อวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคเพิ่มอีก 12 ล้านโดส จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น
ทางกระทรวงสาธารณสุขรายงานต่อศบค. ซึ่งเห็นชอบและครม.อนุมัติแล้ว ศบค. ยึดจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ การศึกษาและวิจัย ทั้งในพื้นที่และในโรงเรียนแพทย์อย่างหลากหลาย
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า โดยเป็นการรายงานการศึกษาการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่พบว่ามีบุคลากรที่ฉีดซิโนแวคสองเข็มแล้วมีการติดเชื้อ หลัง 14 วันไปแล้วพบว่าประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันการติดเชื้อถึง 72% และป้องกันการตายป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง 98% รวมถึงการศึกษาเทียบกับแอสตร้าเซนเนก้า ที่พบบุคลากรติดเชื้อหลังจากได้รับหนึ่งเข็ม พบว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อมากถึง 88% แต่เมื่อดูจากการศึกษาแล้วหากมีการฉีดผสมร่วมกันระหว่างซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า จะทำให้ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อ ป้องกันการเสียชีวิต ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง มีความสามารถป้องกันโรคได้สูงมากขึ้น
“ดังนั้นการยืนยันข้อมูลการศึกษาต่าง ๆ ทำให้ศบค. ให้ความเห็นชอบและที่จะดำเนินการให้จัดสรรซิโนแวคเพิ่มเติม และอีกหนึ่งเหตุผลคือเดิมจากที่วางแผนให้มีการระดมฉีดวัคซีนทั่วประเทศไทยได้ 100 ล้านโดส แผนเดิมที่วางไว้ จะมีการเติมวัคซีนเข้ามาจาก 2 ส่วน คือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และ แอสตร้าเซนเนก้า คาดว่าจะให้รวม ๆ กัน ประมาณ 10 ล้านโดส แต่กระทรวงสาธารณสุขรายงาน ก่อนหน้านี้ว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ได้ในไตรมาส 4 ตามที่ตกลงกันไว้ ดังนั้นทำให้แผนต้องปรับ และเช่นเดียวกันกับ แอสตร้าเซนเนก้า โดยกำลังผลิต การจัดสรร ที่คาดการณ์ว่าจะได้ 10 ล้านโดส อาจจะลดลงมาอยู่ที่ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ทำให้มีความสมเหตุสมผลที่จำเป็นต้องจัดหาวัคซีนซิโนแวก เข้ามาเสริมในส่วนที่ขาดหายไป” พญ.อภิสมัย กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า และจากการศึกษาของโรงเรียนแพทย์ทั้ง จุฬา รามา ศิริราช ที่มีการระดมฉีดไขว้ ซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า ห่างกัน 3 สัปดาห์ แทนที่จะรอให้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มห่างกัน 12 สัปดาห์ ก็พบว่ามีการช่วยให้ประสิทธิภาพของการป้องกันการติดเชื้อ ลดอัตราป่วยรุนแรง ลดอัตราเสียชีวิต ได้ รวมทั้งการระดมฉีดครอบคลุมประชากรจำนวนมากได้เป็นไปตามแผนของการกระจายวัคซีน