ธอส. เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการ My Hero : บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยในเวลานี้ ได้เต็มวงเงินจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาทแล้ว
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ทำการรายงานถึงความคืบหน้าของโครงการ My Hero : บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยในเวลานี้ได้ให้ความช่วยเหลือเต็มวงเงินจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผย โครงการ My Hero : บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข” ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากปัจจุบันเหลือเพียง 1.00% ต่อปี นาน 4 เดือน (กันยายน – ธันวาคม 2564) หรือ เงินงวดลดลงประมาณ 50% ของเงินงวดเดิม เปิดลงทะเบียนอีกครั้งเมื่อเวลา 8.30 น. ของวันที่ 16 สิงหาคม 2564 พร้อมปรับเพิ่มวงเงินอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็น 12,000 ล้านบาท
ผลปรากฏว่า ณ เวลา 15.00 น. มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าโครงการ “เต็ม” กรอบวงเงินแล้ว
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารได้เปิดให้ลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรด่านหน้าในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีน ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการนี้อีกครั้ง
ซึ่งธนาคารได้เพิ่มกรอบวงเงินไปอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็น 12,000 ล้านบาท ปรากฏว่ามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ “เต็ม”กรอบวงเงินรวม 12,000 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
และจากนี้ธนาคารจะขอตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนเข้าโครงการโดยเร็วที่สุดต่อไป ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือเหลือ 1.00% ต่อปี จากทุกอัตราดอกเบี้ยที่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นระยะเวลานาน 4 เดือน (กันยายน – ธันวาคม 2564) หรือ เงินงวดลดลงประมาณ 50% ของเงินงวดเดิม
สำหรับ “โครงการ My Hero : บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข” ธอส. ได้จัดทำขึ้นเพื่อส่งกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรด่านหน้าในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีนที่มีสถานะบัญชีปกติ
โดยช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในด้านที่อยู่อาศัย ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1.00% ต่อปี นาน 4 เดือน ซึ่งเงินงวดใหม่ที่ลูกค้าชำระเข้ามาจะตัดชำระทั้งเงินต้นและตัดชำระดอกเบี้ย หรือหากชำระเกินกว่าเงินงวดใหม่ที่ธนาคารกำหนด ส่วนที่เกินธนาคารจะนำไปตัดเงินต้นให้กับลูกค้า
และเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 เดือน ลูกค้าจะกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการเดิมที่เคยเลือกใช้ก่อนเข้าร่วมโครงการโดยไม่ถือว่ามีดอกเบี้ยค้างชำระ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center)โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th, Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ Application : GHB ALL
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน
- ธ.ออมสิน เปิดเพจ ออมสินห่วงใย ศูนย์กลางความช่วยเหลือใหม่บนโซเซียล
- ข่าวปลอม! ธนาคารกรุงไทย แจกเงิน 25,000 บาท/เดือน
