หมอไม่ทน ล่ารายชื่อ เรียกร้อง แพทย์ด่านหน้าได้รับ ‘ไฟเซอร์’
จากกรณีที่โรงพยาบาลและแพทย์ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้รับไฟเซอร์นั้น ทำให้กลุ่ม หมอไม่ทน ออกมาล่ารายชื่อ เรียกร้อง แพทย์ด่านหน้าได้รับ ‘ไฟเซอร์’
เพจเฟซบุ๊ก ภาคีบุคลากร สาธารณสุข หรือ กลุ่มหมอไม่ทน ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก หลังจากที่มีโรงพยาบาลหลายแห่งและบุลคากรทางการแพทย์โพสต์ข้อความว่าไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ตามที่ร้องขอเอาไว้ โดยทางเพจเรียกร้องให้แพทย์ด่านหน้าร่วมลงชื่อเรียกร้องไฟเซอร์จากภาครัฐ
โดยข้อความระบุว่า ““บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทุกคนที่คุณสมบัติเข้าเกณฑ์ควรได้รับไฟเซอร์!”
เครือข่ายบุคลาการทางการแพทย์ ขอเชิญบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์และแสดงเจตจำนงขอรับแล้วแต่ไม่ได้รับร่วมลงชื่อ เพื่อส่งเสียงบอกว่ามีด่านหน้าอีกจำนวนเท่าใดที่ไม่ได้รับวัคซีนที่ควรได้รับ เพื่อช่วยกันส่งข้อมูลการบริหารจัดการวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามคำสัญญามารวบรวมไว้อย่างเป็นระบบเพื่อนำไปขับเคลื่อนเชิงนโยบายในอนาคตต่อไป อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกให้ผู้เกี่ยวข้องกับการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ตระหนักถึงพลังของบุคลากรทางการแพทย์
เมื่อวัคซีน mRNA ที่เราเรียกร้องให้เป็นวัคซีนหลักมาถึงแต่กลับมีอุปสรรคมากมายทำให้พวกเราไม่อาจได้รับวัคซีน อาทิเช่น หลายโรงพยาบาลจัดสรรโควตาวัคซีนไฟเซอร์ไม่เพียงพอต่อจำนวนบุคลากรผู้ผ่านเกณฑ์ ทำให้ต้องจัดสรรวัคซีนโดยลำดับความเสี่ยงของบุคลากรฯ ด่านหน้าจากมากไปน้อย ทั้งที่ในความเป็นจริงด่านหน้าทุกคนล้วนมีความเสี่ยงไม่ต่างกัน อีกทั้งเกณฑ์ที่ใช้กำหนดยังไม่อาจสอบทานได้, บางโรงพยาบาลยืนยันว่าจะฉีดไฟเซอร์ให้บุคลากรเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น (booster dose) หลังบุคลากรฯ ได้รับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) 2 เข็มเท่านั้น ซึ่งเป็นการยึดตามเกณฑ์เก่าไม่ใช่เกณฑ์ปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการจัดสรรไฟเซอร์ให้แต่ละจังหวัดอย่างไม่สอดคล้องกับการระบาด ไม่มีข้อกำหนดชัดเจนแจ้งว่า เหตุใดบางจังหวัดจึงได้รับวัคซีนมากกว่าจังหวัดที่มีการระบาดมากกว่า ฯลฯ
ภาวการณ์เหล่านี้บั่นทอนขวัญกำลังใจ และทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการวัคซีนอย่างมาก เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ จึงมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ต่อกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
1. จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น (booster dose), เป็นวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่สองสำหรับผู้ไม่เคยฉีด, เป็นวัคซีนเข็มที่สองสำหรับผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว, อีกทั้งจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า “ทุกคน” ที่ประสงค์จะรับวัคซีน ทั้งนี้หากจำนวนวัคซีนที่จัดสรร 700,000 โดสไม่เพียงพอ เราขอเรียกร้องให้รัฐจัดหาวัคซีน mRNA ให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นการเร่งด่วน
2. เปิดเผยว่ารัฐใช้เกณฑ์ใดในการจัดสรรวัคซีนให้แก่จังหวัดต่างๆ และโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรม
3. เปิดเผยจำนวนวัคซีนไฟเซอร์ที่แต่ละจังหวัดส่งชื่อยื่นขอ และจำนวนที่จัดสรรให้จริงทุกจังหวัด
4. แจ้งแผนการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ล็อตที่สองซึ่งเตรียมส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ทั้งจำนวน และการกระจายไปยังแต่ละจังหวัด
ทั้งนี้ระหว่างข้อเรียกร้องต่างๆ กำลังเดินทางต่อไปถึงรัฐ เราอยากขอเชิญชวนบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับไฟเซอร์แต่ไม่ได้รับ ร่วมกันส่งข้อมูลตามลิ้งค์
https://tinyurl.com/WhereIsOurPfizer หรือ QR code ที่ปรากฎ เพื่อแสดงเจตจำนงและพลังของพวกเราอีกทางหนึ่ง อีกทั้งข้อมูลที่ได้เราจะรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบเพื่อนำไปขับเคลื่อนเชิงนโยบายต่อไป
พวกเราเป็นมนุษย์ พวกเราเหนื่อยได้ เจ็บปวดเป็น และมีโอกาสเสียชีวิตได้ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่วันนี้พวกเราแบกรับความเสี่ยง เป็นด่านหน้าให้กับศึกครั้งนี้ เราคาดหวังว่า รัฐจะกระจายวัคซีนให้พวกเราอย่างเป็นธรรม”