ทำความรู้จัก นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (Part 3)
หลังจากที่ The Thaiger ได้พาไปรู้จัก 20 นักกีฬาไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขัน โตเกียว โอลิมปิก เกมส์ 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักนักกีฬาไทย ลำดับที่ 21-30 กันครับ
คลิกอ่าน : ทำความรู้จัก นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (Part 1)
คลิกอ่าน : ทำความรู้จัก นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (Part 2)
รายชื่อ นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (อันดับที่ 21-30)
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://stadiumth.com/
21.เรือกรรเชียง ประเภท 2 ฝีพายชาย รุ่นไลท์เวท
นวมินทร์ ดีน้อย (ซ้าย) และ ศิวกร วงศ์พิณ (ขวา) คู่หูนักกีฬาเรือกรรเชียงทีมชาติไทย ประเภท 2 ฝีพายชาย รุ่นไลท์เวท คว้าตั๋วโอลิมปิก 2020 หลังทำผลงานได้อันดับ 8 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ โซนเอเชียและโอเชียเนีย ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
แต่ทว่าตามกฎของสหพันธ์เรือกรรเชียงนานาชาติ ที่ต้องการกระจายโควตาให้ทั่วถึงทุกประเทศ จึงได้กำหนดไว้ว่าให้แต่ละชาติสามารถส่งนักกีฬาเข้าร่วมโอลิมปิกได้แค่ 1 รายการ ซึ่งชาติอื่น ๆ ที่ทำผลงานจบอันดับ 1-7 นั้นได้เลือกโควตานักกีฬาจากรายการอื่นไปแล้ว ทำให้ตั๋วโอลิมปิกประเภท 2 ฝีพายชาย จึงตกมาเป็นของนักกีฬาไทย
รายชื่อนักกีฬา
[ นวมินทร์ ดีน้อย (แซ็ค) ]
เด็กหนุ่มจากเชียงราย เผลอตอบรับคำเชิญชวนให้ไปซ้อมกีฬาเรือกรรเชียง โดยที่ไม่รู้จักกีฬาชนิดนี้มาก่อน เขาเก็บกระเป๋าขึ้นรถทัวร์มากับเพื่อนร่วมทาง 3-4 คน เดินทางออกจากบ้านเกิดเป็นครั้งแรกด้วยวัยเพียง 12 ปี โดยมีปลายทางอยู่ที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ตลอดเวลาหนึ่งเดือนเต็มไปด้วยความรู้สึกทั้งโดดเดี่ยว เหนื่อยล้า คิดถึงบ้าน เขาตั้งคำถามกับตัวเองในหัวตลอดว่า “กูมาทำอะไรที่นี่” แต่เพราะต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองกับสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เป็นนักกีฬาโอลิมปิก
[ ศิวกร วงศ์พิณ (โอ๊ต) ]
เด็กหนุ่มผู้ไม่มีความฝัน เติบโตมากับการแข่งเรือประเพณีในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่จังหวัดระยอง เขาตั้งใจว่าเรียนจบ ม.3 จะออกมาทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัว แต่ความโดดเด่นทางด้านการพายเรือทำให้โอกาสเข้าแคมป์ทีมชาติลอยเข้าหาแบบไม่ทันตั้งตัว แม้ชีวิตนักกีฬาจะเหนื่อยและท้อจนอยากยอมแพ้ แต่ทุกครั้งที่นึกครอบครัวจะเงยหน้าสู้ต่อเสมอ จนวันนี้เขากลายเป็นนักกีฬาเรือกรรเชียงคู่แรกของไทยในโอลิมปิก
22.รามณรงค์ เสวกวิหารี (จูเนียร์) เทควันโด รุ่น 58 กก.ชาย
จากหนุ่มน้อยผู้ที่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำกลายเป็นเด็กหนุ่มที่ห้าวหาญไม่เกรงกลัวใครพร้อมเดินหน้าไล่หวดคู่แข่งบนเวที ชุดเทควันโดทีมชาติไทยคือฝันตั้งแต่เด็ก แม้จะเคยผิดหวังมาหลายครั้ง แต่ด้วยเลือดของนักสู้จึงทำให้เขายังคงเดินหน้าต่อไปกระทั่งเขาสามารถคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งโตเกียวโอลิมปิกหนนี้จะเป็นบททดสอบว่าเขาพร้อมหรือยังกับคำว่าตำนาน
23.จุฑามาศ จิตรพงศ์ (เฟี้ยว) มวยสากล รุ่น 51 กก.หญิง
นักชกดาวรุ่งวัย 23 จากนครศรีธรรมราช แม้จะเริ่มชกมวยสากลได้แค่ 4 ปี แต่ทักษะการชกที่ดีบวกกับแรงปรารถนาที่ต้องการความสำเร็จ ทำให้เธอถูกวางหนึ่งในขุมกำลังแห่งอนาคตของวงการมวยสากลไทย แม้เวลานี้ประสบการณ์ในระดับนานาชาติอาจจะยังมีไม่มาก แต่เธอก็ยังดีพอที่จะได้ตั๋วโอลิมปิกเกมส์มาครอง และกลายเป็นนักชกไทยคนที่ 5 ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 และนักชกหญิงไทยคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์โอลิมปิก
24.ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร (ฟ้า) จักรยาน ประเภท BMX Racing
เด็กหญิงตัวเล็กแต่ใจใหญ่ที่ฝันไกลถึงโอลิมปิก เติบโตท่ามกลางครอบครัวนักกีฬา BMX ทำให้เธอซึมซับภาพจำของเจ้าสองล้อมาตั้งแต่วัยเยาว์และกลายมาเป็นกีฬาเพียงชนิดเดียวที่เธอทุ่มเทให้ทั้งชีวิต แม้จะมีเสียงคัดค้านว่ารูปร่างเล็กไม่เหมาะสม พร้อมกับอาการบาดเจ็บขณะฝึกซ้อมจนเกือบจะทำให้เธอหมดสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิก 2020 แต่ด้วยความมุ่งมั่นทำให้เธอสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายที่โตเกียวสำเร็จ
25.อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (แจ๊ส) กอล์ฟบุคคลชาย
26.กัญจน์ เจริญกุล (กัญจน์) กอล์ฟบุคคลชาย
27.กชกร วรสีหะ (ริซ่า) ยูโด รุ่น 52 กก.หญิง
นักกีฬายูโดลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เธอตัดสินใจรับใช้ทีมชาติทีมไทยครั้งแรกในปี 2015 ตามสายเลือดของบิดา แจ้งเกิดด้วยการคว้าเหรียญทองแดงซีเกมส์ ปี 2015 และเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ ในปี 2018 และในปีถัดมาเธอก็สามารถคว้าแชมป์แรกในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทยได้สำเร็จ ในการแข่งขันซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ความยอดเยี่ยมของเธอตลอดเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ยังส่งผลให้เธอกลายเป็นนักกีฬายูโดไทยเพียงคนเดียวที่เก็บคะแนนสะสมผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้เป็นครั้งแรก
28.ปภังกร ธวัชธนกิจ (เหมียว) กอล์ฟบุคคลหญิง
โปรเหมียวหรือที่สื่อต่างชาติเรียกกันคุ้นหูว่าแพตตี้ เธอเริ่มตีกอล์ฟตั้งแต่ 9 ขวบ ก่อนจะผลักดันตัวเองจนได้ทุนไปศึกษาต่อที่สหรัฐ ซึ่งที่นั่นเธอได้พัฒนาเรื่องกอล์ฟอย่างเต็มที่ และได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ที่คว้ารางวัลนักกอล์ฟเยาวชนหญิงยอดเยี่ยมในปี 2016 ต่อจากเอรียา จุฑานุกาล
หลังจากนั้นในปี 2019 โปรเหมียวเทิร์นโปรได้สำเร็จ หลังจากทำผลงานได้ดีในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นในรายการ ANA Inspiration ก่อนจะลงแข่งในฤดูกาล 2020 และ 2021 ในฐานะรุกกี้ และในเดือนเมษายน 2021 รุกกี้มืออันดับ 103 ของโลกคนนี้ ได้สร้างเซอร์ไพร์สให้วงการกอล์ฟอาชีพด้วยการก้าวขึ้นไปคว้าระดับเมเจอร์ ANA Inspiration 2021 แบบนำม้วนเดียวจบ สร้างสถิติใหม่ขึ้นมามากมาย และยังทำให้อันดับโลกของกระโดดจาก 103 ขึ้นมาอยู่ที่ 13 ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกที่ส่งให้นักกอล์ฟวัย 21 คนนี้ได้เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรก
29.เอรียา จุฑานุกาาล (เม) กอล์ฟบุคคลหญิง
จุฑานุกาลผู้น้องผู้เปี่ยมด้วยทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ฝีมือการหวงวงสวิงนั้นได้รับการยอมรับจากทั่วโลกตั้งแต่เด็ก นับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2017 เธอได้สร้างความสำเร็จและเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกอล์ฟไทยจนได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ผลงาน 11 แชมป์ LPGA และอีก 2 แชมป์รายการระดับเมเจอร์ พร้อมกับครองมือ 1 ของโลกรวม 23 สัปดาห์ พ่วงด้วยรางวัลส่วนตัวอีกมากมาย และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยนับล้านคน เพราะทั้งหมดนี้คือผลงานที่ดีที่สุดเท่าที่นักกอล์ฟไทยเคยมีมา
30.สุเบญรัตน์ อินแสง (เบญ) กรีฑา ประเภทขว้างจักรหญิง
นักกีฬาขว้างจักรสาวจากสุราษฎร์ธานี ผู้ที่ถูกบูลลี่เรื่องรูปร่างเพราะเธอเป็นคนตัวใหญ่มาตั้งแต่เด็ก แต่เธอกลับไม่ยอมแพ้และก้าวผ่านคำดูถูกเหล่านั้นด้วยการเป็นนักกีฬาขว้างจักร เปลี่ยนจุดด้อยในสายตาคนอื่นให้เป็นจุดแข็งของตัวเอง ต่อสู้จนได้มาเป็นตัวแทนทีมชาติไทย คว้าแชมป์ซีเกมส์ 5 สมัย และได้ไปโอลิมปิกเกมส์อีก 2 ครั้ง ซึ่งตลอด 10 ปีหลังสุดไม่มีนักกีฬาขว้างจักรหญิงคนไหนในประเทศที่จะทำผลงานได้ดีไปกว่าเธออีกแล้ว จนสื่อหลายแขนงต่างขนานนามยกให้เธอเป็น “ราชินีแห่งวงการข้างจักรไทย”