ทำความรู้จัก นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (Part 1)
อีกแค่ไม่กี่อึดใจ แฟนกีฬาชาวไทยและทั่วโลก ก็จะได้รับชม มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อย่าง โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือ เป็นครั้งแรกในรอบ 56 ปี ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้จะได้จัดมหกรรมกีฬาใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง วันนี้ The Thaiger ขอพาเพื่อนๆไป รู้จัก นักกีฬาไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้กันครับ
โอลิมปิก หนนี้จัดให้มีการชิงชัยกันทั้งหมด 33 กีฬา โดยมี 6 ชนิดกีฬาใหม่ที่ถูกบรรจุเพิ่มเข้ามา สเก็ตบอร์ด , ปีนหน้าผา , เบสบอล, ซอฟท์บอล , คาราเต้ และ กระดานโต้คลื่น
คลิกอ่าน : จับตา 6 กีฬาใหม่ ใน โตเกียว โอลิมปิก 2020
คลิกอ่าน : ช่องทางรับชม ถ่ายทอดสด โอลิมปิก โตเกียว 2020
ซึ่งตอนนี้เราได้บทสรุปกันเรียบร้อยแล้วว่าจากทั้งหมด 33 ชนิดกีฬา มีนักกีฬาไทยผ่านการคัดเลือกและได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย 37 โควตา รวมจำนวน 42 คน จาก 14 ชนิดกีฬา คือ
- ยิงปืน และ ยิงเป้าบิน
- ขี่ม้า
- เทควันโด
- จักรยาน
- เรือใบ&วินด์เซิร์ฟ
- มวยสากล
- กรีฑา
- เทเบิลเทนนิส
- เรือแคนู
- เรือกรรเชียง
- กอล์ฟ
- ยูโด
- ว่ายน้ำ
- แบดมินตัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://stadiumth.com/
รายชื่อ นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (อันดับที่ 1-10)
1.เศวต เศรษฐาภรณ์ (แซม) นักกีฬายิงเป้าบิน ประเภทแทร็ปชาย
อดีตนักบินที่มองหาความท้าทายใหม่ในชีวิต เขาตัดสินใจผันตัวเองมาเป็นนักกีฬายิงปืนในวัย 41 ปี แม้ว่าการก้าวเข้าสู่รั้วทีมชาติจะเกิดขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ปีเศษ ๆ แต่เขากลับต้องใช้ความอดทน พยายามนานกว่า 15 ปี กว่าจะที่ได้สัมผัสกับเหรียญรางวัลแรกในชีวิต ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนอกจะทำให้แซมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยอายุมากที่สุดที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้ายแล้ว ยังเป็นรางวัลที่ตอบแทนความมุ่งมั่นของนักล่าฝันวัย 57 ปีคนนี้ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อความผิดหวังเลยสักครั้ง
2.กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (แบม) นักกีฬาเรือใบ ประเภท เลเซอร์ เรเดียลหญิง
สาวนักล่าฝันที่อยากติดทีมชาติมาตั้งแต่ 8 ขวบ ตัดสินใจเลือกเดินเส้นทางนักกีฬาเรือใบทีมชาติตามรอยเท้าผู้เป็นพ่อ แต่เมื่อเติบโตขึ้นก็พบว่าฝันของตัวเองนั้นใหญ่กว่าที่คิด การจะไปโอลิมปิกได้สักครั้งเธอต้องดิ้นรนไม่น้อยกว่าใคร ในวัย 15 เธอหอบแฟ้มผลงานส่วนตัวเข้าไปพรีเซนต์ความสามารถของตัวเองต่อหน้านายทุนทั้งหลาย เพื่อขอรับการสนับสนุนการเล่นกีฬา ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาเรือใบหญิงไทยคนแรกที่ผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกถึง 2 สมัย
3.ศิริพร แก้วดวงงาม (ดาว) นักกีฬาวินด์เซิร์ฟ ประเภท RS:X หญิง
สปอร์ตเกิร์ลแห่งหาดจอมเทียนที่แจ้งเกิดด้วยแชมป์ยูธโอลิมปิกเกมส์ 2010 ต่อด้วยรองแชมป์เยาวชนโลกในปีถัดมา กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการ แต่หลังจากนั้นไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหลุดจากวงโคจรแห่งความสำเร็จไปนานกว่า 5 ปี ก่อนจะพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อได้เข้าการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 หลังจบทัวร์นาเมนท์ดังกล่าวเหมือนได้เปิดโลกทัศน์ ปรับเปลี่ยนทัศนคติเล็กน้อย จากนั้นแค่ปีเดียวเธอได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์โลกอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งในโอลิมปิก 2020 เธอตั้งใจจะกลับแก้มือให้สำเร็จ
4.จุฑาธิป มณีพันธุ์ (บีซ) นักกีฬาจักรยาน ประเภทถนน
นักสู้แห่งวงการน่องเหล็กไทย หวิดสิ้นชื่อมาแล้วหลายต่อหลายครั้งจากอุบัติเหตุประสานงากับรถกระบะระหว่างการฝึกซ้อม ไห้ปลาหักสองท่อนจนต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ก็ไม่คิดที่จะหันหลังให้กับสิ่งที่เธอรัก ปล่อยให้ความมุ่งมั่นนำไปสู่ความสำเร็จ
เธอสร้างชื่อครั้งแรกจากการคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 แบบเหนือความคาดหมาย ก่อนจะกลายเป็นนักกีฬาจักรยานไทยคนแรกและคนเดียวที่ผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ ได้ถึง 3 สมัย (2012 , 2016 , 2020) แม้จะยังไม่เคยปั่นไปจนถึงเส้นชัย แต่การที่วันนี้ตัวเธอยังนั่งอยู่เหนือเบาะจักรยาน ก็สะท้อนความเป็นนักสู้ของเธอได้ชัดเจนที่สุดแล้ว
5.อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ (กัปตัน) นักกีฬายิงปืน ประเภทปืนสั้นยิงเร็ว 25 ม. ชาย
อัจฉริยะวัย 15 ปีจากเมืองย่าโม หลงเสน่ห์การยิงปืนตั้งแต่ 8 ขวบ ใช้เวลาแค่ 4 ปีไต่เต้าขึ้นสู่การเป็นตัวแทนทีมชาติไทย แม้ว่าประสบการณ์ของเขาอาจจะน้อยกว่าใคร แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความมุ่งมั่นกับหัวใจที่ใหญ่เกินตัว แถมยังไม่มีคำว่ากลัวอยู่ในพจนานุกรม เมื่อส่วนผสมทุกอย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เขากลายเป็นนักกีฬาไทยที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก
6.ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (เอิน) นักกีฬายิงปืน ประเภทปืนสั้นสตรี 25 ม. หญิง
นักกีฬายิงปืนหญิงทีมชาติไทย ผู้ที่เกือบจะหันหลังให้กับวงการแม่นปืน เมื่อครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าต้องการกลับไปใช้ชีวิตเช่นคนทั่วไป แต่ทว่าเมื่อเธอย้อนกลับมาทบทวนอย่างถี่ถ้วนทำให้เธอตัดสินใจเดินต่อไปในเส้นทางนักกีฬาทีมชาติ เหรียญรางวัลมากมายที่เธอคว้ามาครองล้วนมาจากการสั่งสมประสบการณ์ตลอดการรับใช้ทีมชาติมากกว่า 20 ปีและโอลิมปิก 2020 ที่จะถึงนี้จะเป็นบททดสอบหัวจิตหัวใจเธออีกครั้ง
7.ธันยพร พฤกษากร (ธันย่า) นักกีฬายิงปืน ประเภทปืนสั้นสตรี 25 ม. หญิง
จากเด็กติดที่ติดแชทคุยโทรศัพท์กับเพื่อนทั้งวัน ครอบครัวจึงหาทางออกให้ด้วยการเล่นกีฬายิงปืน แต่ใครจะเชื่อว่าพรสวรรค์ที่แฝงอยู่ในตัวจะทำให้เธอติดทีมชาติไทยครั้งแรกด้วยวัยเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น จากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านมา 18 ปี มาตรฐานเธอไม่เคยตก ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของทีมชาติและนำพาความสำเร็จมาฝากคนไทยอย่างสม่ำเสมอ แชมป์ซีเกมส์ 5 สมัย ผ่านเข้ารอบชิง ฯ โอลิมปิกเกมส์ได้ถึง 2 จาก 3 ครั้ง ปัจจุบันเป็นนักกีฬาไทยเพียงไม่กี่คนที่กำลังจะได้เข้าไปร่วมสร้างความสำเร็จในโอลิมปิกเป็นสมัย 4
8.สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ณี) นักกีฬายิงเป้าบิน ประเภทสกีตหญิง
นักแม่นปืนสาวจากปราจีนบุรี ผู้ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักกีฬาด้วยความเชื่อที่ว่าทุกความสำเร็จล้วนเกิดจากการฝึกซ้อม และในทุก ๆ ครั้งต้องซ้อมให้ดีที่สุด โดยมีความทะเยอทะยานเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตให้ก้าวไปสู่ระดับโลก การันตีคุณภาพด้วยการเป็นแชมป์โลก แชมป์เอเชียนเกมส์ แชมป์เอเชีย และเคยครองมือ 1 ของโลกมาแล้วในปี 2016 แม้ว่าจะประสบความสำเร็จมามากมาย แต่ไฟในตัวยังคงลุกโชนอยู่เสมอ เพราะความฝันสุดท้ายของเธอคือการคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิก
9.อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (วอร์ม) นักกีฬายิงเป้าบิน ประเภทสกีตหญิง
เด็กสาวจากเมืองหลวงที่เติบโตมาในครอบครัวรักการยิงปืน กลับไม่เคยคิดจริงจังกับการเล่นกีฬาชนิดนี้เลยสักครั้ง แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากคนรอบข้างที่คอยผลักดันให้เธอพัฒนาตัวเองจนก้าวสู่การเป็นตัวแทนทีมชาติ แม้จะไม่เคยคิดฝันถึงโอลิมปิกเกมส์เลยสักครั้ง แต่ด้วยฝีมือเธอจัดอยู่ในระดับแชมป์ทวีปเอเชีย เมื่อตั๋วโอลิมปิกลอยมาก็ไม่พลาดที่จะคว้ามันเอาไว้
10.นักกีฬาขี่ม้า ประเภททีมอีเว้นท์ติ้ง
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ ขี่ม้า ประเภททีมอีเว้นท์ติ้ง ที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก เป็นผลมาจากการพยายามของ 3 นักกีฬา ประกอบไปด้วย (บอมบ์) วีรภัฎ ปิฏกานนท์ , (มิ้นท์) อารีย์ณัฏฐา ชวตานนท์ และ (นัท) กรธวัช สำราญ ซึ่งทั้งหมดต่างรวมใจกันฝ่าฟันปัญหาอุปสรรค ต่าง ๆ นานาจนผ่านรอบคัดเลือกเป็นผลสำเร็จ
ซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงนี้เป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่กีฬาขี่ม้าได้เข้าร่วมโอลิมปิก , เป็นครั้งแรกในขี่ม้ ทีมอีเว้นติ้งท์ ที่เข้าร่วมโอลิมปิก และถึงเวลานี้นี่คือกีฬาประเภททีมชนิดเดียวที่ผ่านเข้าร่วมโอลิมปิก 2020 ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 เท่านั้นที่กีฬาชนิดนี้ได้เข้าร่วมโอลิมปิกรอบสุดท้าย
รายชื่อนักกีฬา
[ อารีย์ณัฏฐา ชวตานนท์ (มิ้นท์) ]
จอกกี้สาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้ ไม่ว่าจะกี่ปัญหาร้อยแปดหรือโลกจะแตกเธอก็ไม่เคยหวาดหวั่น พร้อมยืนหยัดต่อสู้ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหน เพราะตลอดเส้นทางนักกีฬาของเธอได้ผ่านบทพิสูจน์มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโดนลงโทษห้ามแข่งขันเป็นเวลา 2 ปี หรือการที่ต้องดิ้นรนควอลิฟายในดินแดนยุโรปเป็นเวลา 2 ปีท่ามกลางปัญหาที่ต้องกันเฉพาะหน้า ท้ายที่สุดแม้ว่าจะคว้าตั๋วโอลิมปิกได้สำเร็จ กลับประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนกระดูกเท้าแตกละเอียด เสียหายทั้งกายและใจ แต่เพราะความเข้มแข็งวันนี้เธอกลับมาฟิตพร้อมไปลุยต่อในโอลิมปิกเกมส์
[ วีรภัฎ ปิฏกานนท์ (บอมบ์) ]
นักขี่ม้าประสบการณ์สูง รับใช้ทีมชาติไทยมาเกือบ 2 ทศวรรษ เป็นส่วนหนึ่งในทีมชุดเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ปัจจุบันแม้ว่าจะมีภาระหน้าที่ต้องดูแลครอบครัวรวมถึงกิจการส่วนตัว แต่เพราะยังมีความฝันที่อยากจะทำให้สำเร็จ จึงตัดสินใจตอบรับคำเชิญเข้าร่วมทีมขี่ม้า เป็นพี่ใหญ่ในทีม เป็นแกนนำสร้างขวัญกำลังใจจนคว้าตั๋วโอลิมปิกมาได้สำเร็จ
[ กรธวัช สำราญ (นัท) ]
จ๊อกกี้หนุ่มดีกรีเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ 2019 ฝีมือการบังคับม้าที่ไม่ธรรมดา ทำให้เข้าถูกเลือกเข้ามาเป็น 1 ใน 3 ขุนพลล่าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 ท่ามกลางปัญหาสารพัดในการตระเวนเก็บคะแนน เขาถือเป็นหนึ่งในเสาหลักที่พาทีมก้าวข้ามอุปสรรค จนร่วมกันเขียนบันทึกขึ้นมาใหม่ เป็นทีมขี่ม้าไทยทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย