ข่าวข่าวภูมิภาค

อนุทิน เผย ญี่ปุ่น เตรียม บริจาควัคซีนโควิด ให้ไทย เดือน ก.ค. นี้

อนุทิน เผยข่าวดี ญี่ปุ่น เตรียม บริจาควัคซีน โควิด ให้กับประเทศไทย คาดว่าจะเดินทางมาถึงในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานรับมอบห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ 3 (BSL3) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จาก นายนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

Advertisements

โดยนายอนุทินเปิดเผยว่า กรมวิทย์มีความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นหลายโครงการ ตั้งแต่การก่อสร้างอาคารสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขแห่งชาติ เมื่อ 37 ปีก่อน เพื่อเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศ ยืนยันสาเหตุและสถานการณ์ของโรคที่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุข

ล่าสุดปี 2563 กรมวิทย์ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านองค์การอนามัยโลก (WHO) จำนวน 38.6 ล้านบาท พัฒนาปรับปรุงยกระดับห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ 2 และระดับ 3 วันนี้จึงได้มีการส่งมอบ โดยห้องแล็บนี้ใช้ตรวจเชื้อโควิด 19 ตรวจมาตรฐานวัคซีนโควิดก่อนส่งออกไปใช้ในทุกพื้นที่ พัฒนาวิธีการตรวจวิเคราะห์ ชุดตรวจ และยารักษาโรค รวมถึงเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมด้านปลอดภัยและความมั่นคงด้านชีวภาพทางห้องปฏิบัติการภูมิภาคอาเซียน

“ในนามของ สธ. รัฐบาลไทย ขอบคุณในไมตรีจิตรัฐบาลญี่ปุ่นและการสนับสนุนของ WHO ทำให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขไทยไม่เคยถอยหลัง แต่เดินหน้าไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย กรมวิทย์แต่ละปีต้องเพิ่มศักยภาพเพิ่มประสิทธิภาพให้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น” นายอนุทินกล่าวและว่า

นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ประเทศไทย ซึ่งข้อเสนอต่างๆ ส่งผ่านมายังกระทรวงต่างประเทศและ สธ. กำลังพิจารณาข้อความข้อเสนอซึ่งไม่มีอะไรน่าหนักใจ เราเป็นผู้รับ ดูให้ละเอียดเรียบร้อยจะลงนามกลับไปในวันที่ 24 มิ.ย. ส่วนจำนวนขอเก็บเป็นความลับระหว่างเจรจา คาดการณ์ไว้จะมาในเดือนก.ค. ถือเป็นตัวแทนมิตรภาพสองประเทศ เข้ามาช่วยทำให้การกระจายวัคซีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ไทยใช้ ก็ลุยได้เลยไม่ต้องเผื่อเข็มสอง ทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ถือว่ามีโบนัสมาใน ก.ค.

“ที่ญี่ปุ่นจะให้เพราะเพราะสัมพันธไมตรี เงินลงทุนที่ญี่ปุ่นลงในไทยก็มหาศาล มีประชากร การจ้างแรงงาน ญี่ปุ่นสนับสนุนไทยมาตลอด เป็นความสัมพันธ์ที่ดีสองประเทศ และยังให้ความสำคัญเชื่อมั่นประเทศไทย หลังโควิดก็ต้องเชื่อมั่นว่าการลงทุน ค้าขาย สองประเทศก็ต้องแน่นแฟ้นไปมากกว่านี้ มีแต่ปัจจัยบวกไม่ใช่ปัจจัยลบ” นายอนุทินกล่าว

Advertisements

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ 3 ดังกล่าวได้รับงบประมาณจัดสรรเป็นอุปกรณ์ วัสดุวิทยาศาสตร์ น้ำยา และจัดสรรสำหรับการซ่อมห้อง BSL2 , 3 โดยออกแบบให้มีลักษณะพิเศษ ป้องกันการหลุดรอดของเชื้อโรคสู่ภายนอก ใช้ตรวจวิเคราะห์ วิจัยเชื้อโรคความเสี่ยงสูง เช่น ไข้หวัดนก โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง โรคซาร์ส โรคโควิด 19 เป็นต้น โดยสามารถเพาะแยกเชื้อไวรัส เพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเชื้อ สกัดสารพันธุกรรม และการจัดการกับตัวอย่างติดเชื้ออุบัติใหม่ เพื่อเป็นคลังสายพันธุ์เชื้อแห่งชาติ เพื่อการชันสูตรโรค ศึกษาวิจัย ทางการแพทย์และสาธารณสุข ควบคุมโรค ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการเครือข่าย และต่อยอดพัฒนายาและวัคซีน เพื่อการรักษาและป้องกันโรค

ด้านนายนาชิดะ กล่าวว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่นมีสถานการณ์คล้ายกัน โดยญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนในประเทศ ทั้งนี้ ขอชื่นชมนโยบายนายกรัฐมนตรีถึงการเปิดประเทศ 120 วัน ซึ่งญี่ปุ่นรอในฐานะที่ 2 ประเทศมีการลงทุน หวังว่าทุกคนร่วมมือการเปิดประเทศสองประเทศดำเนินไปได้

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button