ข่าวท่องเที่ยว

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 เพิ่มเติมอีก 2 ล้านสิทธิ์ ใครใช้ได้บ้าง

ล่าสุด ครม. ได้มีการดำเนินการปรับเปลี่ยนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หรืออีกนับหนึ่ง เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 เพิ่มอีก 2 ล้านสิทธิ์ และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ โดยสรุปคือ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 จะเริ่มขยายสิทธิ พ.ค. 64 และ สิ้นสุดโครงการ 31 ส.ค. 64

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 – ครม. ได้มีการอนุมัติให้ทำการปรับปรุงในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้ถือว่าเป็น เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 โดยมีการเพิ่มเติมสิทธิ์โครงการอีก 2 ล้านสิทธิ์ และรายละเอียดอื่น ๆ โดยเราจะมาดูกันว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง รวมไปถึงในส่วนของคนที่เข้าข่ายใช้งานสิทธิ์ได้

โดยการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นั้นมีรายละเอียดด้วยกันดังนี้

“โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” ยกเลิกการจัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางในรูปแบบ Consumer Fair จำนวน 3 ครั้ง วงเงิน 8.08 ล้านบาท ขยายสิทธิ์เพิ่ม 2 ล้านสิทธิ (จาก 6 ล้านเป็น 8 ล้านสิทธิ) ตั้งแต่ พ.ค. 64 และขยายเวลาสิ้นสุดโครงการเป็น 31ส.ค. 64 เพิ่มเติมมาตรการเพื่อป้องกันการทุจริต ดังนี้

  • ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยนำส่งข้อมูลจำนวนห้องพักของโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และขอสิทธิในการเข้าถึงฐานข้อมูล ภาพใบหน้าของประชาชนเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิในโครงการฯ ด้วยการสแกนใบหน้าเมื่อทำการเช็คอินห้องพัก เพื่อให้ธนาคารฯ สามารถเชื่อมโยงเข้าถึงฐานข้อมูลดังกล่าวได้ เป็นการยกระดับการยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิในโครงการฯ ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ OTOP และผู้ประกอบการบริการที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ต้องตกลงให้ความยินยอมในการยอมรับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข (Consent) ของโครงการฯ ที่จะจัดทำขึ้นใหม่ เพิ่มเงื่อนไขความรับผิดชอบและบทลงโทษกรณีมีการกระทำผิดเงื่อนไขหรือการกระทำทุจริตด้วย
  • ปรับระยะเวลาการจองห้องพักล่วงหน้าจาก 3 วัน เป็น 7 วัน -ปรับวิธีการชำระเงินค่าห้องพัก โดยให้ชำระผ่านแอป ฯ “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” เพิ่มระบบการยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิโครงการฯ โดยผู้ใช้สิทธิต้องทำการสแกนใบหน้าเมื่อทำการเช็คอินห้องพัก -ปรับมูลค่าของ e-voucher ในลักษณะร่วมจ่ายในอัตราร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อห้องต่อคืน (ราคาเดียวกันทั้งวันธรรมดาและวันหยุด)
  • ยกเลิกการใช้สิทธิในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน ให้ใช้ e-voucher ในพื้นที่จังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเผยว่า ครม. ยังมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประสานธนาคารกรุงไทยฯ เร่งพัฒนา/ปรับปรุงระบบและแอปพลิเคชันต่างๆ ให้สามารถเชื่อมโยงเข้าถึงฐานข้อมูล ยกระดับการยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการฯ ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยนำเทคโนโลยีการระบุตำแหน่ง (GPS) มาใช้เพื่อระบุตำแหน่งในการยืนยันตัวตน ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินโครงการฯ มีความโปร่งใส รองรับการติดตาม ตรวจสอบ

รวมทั้ง กำหนดเงื่อนไขให้ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิ์โครงการฯ พร้อมกันกับโครงการทัวร์เที่ยวไทยในการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อให้เกิดการกระจายสิทธิ์แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

สำหรับการชำระค่าบริการของทั้ง 2 โครงการจะต้องดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสจากการดำเนินโครงการของรัฐในทางมิชอบด้วย

งเงื่อนไขในการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 มีด้วยกันดังนี้

  • ถือครองบัตรประจำตัวประชาชน และเป็นบุคคลสัญชาติไทย
  • มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียน

 

แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย

สามารถติดตามข่าวการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการท่องเที่ยว

 

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3,
ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน,
ทัวร์เที่ยวไทย,
เที่ยวด้วยกันเฟส 3,

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button