กรมศุลกากร เปิดอาคารฝึกอบรมสถาบันวิทยาการศุลกากร ยกระดับสู่ระดับโลก
กรมศุลกากร เปิดอาคารฝึกอบรมสถาบันวิทยาการศุลกากร พร้อมยกระดับสู่ศูนย์ฝึกอบรมระดับภูมิภาคขององค์การศุลกากรโลก (WCO Regional Training Center)
วันนี้ (วันอังคารที่ 16 มีนาคม 2564) เวลา 15.30 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดี กรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์ฝึกอบรมสถาบันวิทยาการศุลกากร เพื่อรองรับภารกิจการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างเต็มรูปแบบ และพร้อมยกระดับสู่การเป็นศูนย์ฝึกอบรมระดับภูมิภาคขององค์การศุลกากรโลก (WCO Regional Training Center) ณ อาคารศูนย์ฝึกอบรมสถาบันวิทยาการศุลกากร กรมศุลกากร เชิงสะพานกรุงเทพ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เมื่อปีพุทธศักราช 2528 กรมศุลกากรได้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมขึ้น ณ บริเวณพื้นที่แห่งนี้ ต่อมาในปีพุทธศักราช 2539 กรมศุลกากรได้ก่อสร้างอาคาร 120 ปีขึ้นใหม่จึงได้ย้ายการดำเนินงานด้านการฝึกอบรมบุคลากร ไปที่อาคาร 120 ปี ประจำที่ชั้น 15 และ ชั้น 16
โดยกรมศุลกากรได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมให้แก่บุคลากรในหลักสูตรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและพร้อมยกระดับศูนย์ฝึกอบรมสถาบันวิทยาการศุลกากรให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมระดับภูมิภาคขององค์การศุลกากรโลก (WCO Regional Training Center)
กรมศุลกากรจึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกอบรมสถาบันวิทยาการศุลกากรแห่งนี้เป็นอาคารสูง 4 ชั้น ประกอบด้วยห้องประชุมอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ห้อง ห้องฝึกอบรมขนาดกลาง จำนวน 3 ห้อง ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ และห้องที่จำเป็นต่าง ๆ รวมถึงพื้นที่สำนักงาน
อีกทั้งในบริเวณพื้นที่ศูนย์ฝึกอบรมนี้ กรมธนารักษ์ ได้มอบอาคารพักอาศัย 8 ชั้น จำนวน 100 ห้อง ตามโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสามให้แก่กรมศุลกากร ซึ่งทำให้ศูนย์ฝึกอบรมสถาบันวิทยาการศุลกากรแห่งนี้ มีความพร้อมที่จะรองรับภารกิจการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างเต็มรูปแบบ และมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาบุคลากรทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า กรมศุลกากรได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาและเพื่อให้บุคลากรของกรมศุลกากรก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งในปัจจุบันและอนาคต จึงมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรกรมศุลกากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ยังสามารถจัดฝึกอบรมให้แก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับงานด้านศุลกากรให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น รวมถึงเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่ทันสมัยเป็นสากลต่อไป
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ