การเงิน
‘คลินิกแก้หนี้’ หนทางช่วยแก้หนี้เสีย ในช่วง โควิด-19
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบทางการเงินเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการเป็นหนี้เสียของบรรดาผู้คนทั้งหลาย ซึ่งก็มีหนทางในการช่วยบรรเทาปัญหานี้ โดยหนึ่งในนั้นคือ คลินิกแก้หนี้
โดยตัว คลินิกแก้หนี้ นี้ได้กำเนิดขึ้นมาเพื่อทำการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสียทางธุรกรรมการเงินต่าง ๆ (บัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด และสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน) จากสถาวการณ์ เช่น โควิด-19 หรือจากการใช้จ่ายของตัวเอง ในการมีโอกาสในการแก้ปัญหาหนี้ และส่งเสริมการวางแผนและวินัยทางการเงินให้แก่บุคคลที่สนใจ
Advertisements
โดยข้อมูลรายละเอียดของโครงการนั้นมีด้วยกันดังนี้
- คุณสมบัติของผู้เข้าร่วม
- เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี
- เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มี หลักประกันของสถาบันที่เข้าร่ วมโครงการ
- เป็นหนี้เสีย (NPL) ก่อน 1 ก.ค. 63 (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือน มิ.ย. 63 ต้องมีสถานะค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไป)
- หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท
- ขั้นตอนในการเข้าร่วม
- ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
- ขั้นตอนที่ 2 : กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร
- ขั้นตอนที่ 3 : จัดเตรียมเอกสารประกอบการเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้สมัคร
- เอกสารการตรวจสอบข้อมูลภาระหนี้จากเครดิตบูโร โดย ลูกค้าสามารถขอข้อมูลเครดิตบูโรได้ที่ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร / เคาน์เตอร์ธนาคาร / ATM / Mobile App / ที่ทำการไปรษณีย์ไทย / Internet Banking
- สำหรับ พนักงานประจำ
- สลิปเงินเดือน 3 เดือน
- อาชีพอิสระ
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารการแสดงการเสียภาษีเงินได้ 50 ทวิ (ถ้ามี)
- ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อได้รับการยืนยันจากสถาบัน ให้เข้าร่วมโครงการ เจ้าหน้าที่โครงการฯจะติดต่อนัดหมายท่าน เพื่อให้เข้ามาลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
- สถาบันทางการเงินที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 35 แห่ง ได้แก่
- ธนาคารพาณิชย์ 17 แห่ง
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซิตี้แบงค์ เอ็น.เอ.
- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
- สถาบันการเงินอื่น ๆ 18 แห่ง
- บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด
- บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด
- บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด
- บริษัท ซิตี้คอร์ปลิสซิ่ง จากัด
- บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด
- บริษัท นครหลวง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
- บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด
- บริษัท พรอมิส (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
- บริษัท แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
- บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด
- บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- บริษัท อีซี่ บาย จำกัด มหาชน
- บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ไอทีทีพี จำกัด
- บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารพาณิชย์ 17 แห่ง
- เมื่อผ่านการพิจารณา และได้ทำสัญญากับทางบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) แล้วนั้น จะสามารถทำการชำระหนี้ตามกำหนดได้ผ่านทางธนาคารที่เข้าร่วมทั้ง 6 แห่งด้วยกัน
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารธนชาต
- สามารถทำการสมัครได้ 2 ช่องทางด้วยกัน
- ผ่านทางออนไลน์ตามเว็บไซต์นี้ : https://www.debtclinicbysam.com/สมัครเข้าร่วมโครงการ/
- หรือจะทำการดาว์นโหลดใบสมัครได้ผ่านเว็บไซต์นี้ : https://www.debtclinicbysam.com/ดาวน์โหลดใบสมัคร/
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดำเนินการ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ : คลินิกแก้หนี้ (Debt Clinic)
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน
Advertisements