ข่าว

หญิงไทยรีวิวฉีด วัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม พร้อมตอบคำถามที่คนสงสัย

ดร.หญิงชาวไทย ผู้อาศัยอยู่ในชิคาโก้ เผยประสบการณ์การฉีด วัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม พร้อมทั้งตอบคำถามที่หลายคนยังสงสัย

วันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ดร.ศิริรักษ์ ช้างรบ นักวิจัยหลังปริญญาเอก University of Chicago เผยแพร่ประสบการณ์การฉีด วัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม ผ่าน Facebook ส่วนตัว พร้อมทั้งตอบคำถามที่หลายคนยังสงสัย

Advertisements

โดยเธอเล่าว่า เธอเข้ารับวัคซีนเข็มแรก เมื่อ 20 วันก่อน ซึ่งเธอต้องนัดหมายผ่าน MyChart และเมื่อฉีดเสร็จแล้วก็จะได้รับ Vaccination Record Card (การ์ดฉีดวัคซีน) ที่มีชื่อ วันเดือนปีเกิด วันที่วัคซีนเข็มแรก/เข็มสอง ยี่ห้อวัคซีนที่ได้ และล๊อตที่ผลิต มาเก็บไว้กับตัว เพื่อใช้สำหรับการเดินทางในอนาคต

ต่อมาวันนี้เธอก็เข้ามารับ วัคซีน mRNA เข็มที่ 2 ของ Pfizer BioNTech โดยเมื่อผ่านจุดเช็คอิน พยาบาลก็จะมาถามอาการหลังฉีดเข็มแรก อาทิเช่น อาการหลังจากฉีดเป็นอย่างไรบ้าง? เคยมีประวัติการแพ้อะไรรุนแรงไหม? ก่อนหน้านี้ 90 วันเคยตรวจเจอเชื้อโควิดไหม? เป็นต้น

เมื่อทำการฉีดเสร็จครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ก็จะได้ สติ๊กเกอร์ “I got my COVID-19 vaccine!” มาติดไว้บนบัตรทำงาน เป็นสัญลักษณ์ว่าได้ครบแล้วนั่นเอง

การขึ้นทะเบียนภาวะฉุกเฉิน และความปลอดภัย?

Advertisements
  • วัคซีนที่ขึ้นทะเบียนภาวะฉุกเฉิน (Emergency Use Autherization) ทางผู้ผลิตจะต้องมีการรายงานผล 1. ประสิทธิภาพ 2. ความปลอดภัยของวัคซีน ที่ได้เก็บรวบรวมในช่วงระยะทดลองวัคซีน แล้วหลังรับวัคซีนแล้ว 2 เดือน ผู้รับวัคซีนปลอดภัยไม่มีผลร้ายแรงอันเกิดมาจากการได้รับวัคซีน จึงจะขอยื่นต่อ อย. ขึ้นทะเบียนภาวะฉุกเฉินได้ และจะขึ้นทะเบียนอย่างสมบูรณ์ นั่นก็ต่อเมื่อทางผู้ผลิตได้ส่งผลความปลอดภัยของวัคซีนว่ามีปลอดภัยหลังรับวัคซีนไปแล้ว 6 เดือน เพราะฉะนั้นช่องว่างระหว่างรอผล ก็สามารถฉีดไปก่อนได้ เพื่อให้สร้าง herd immunity ให้เร็วที่สุด สำคัญคือต้องไม่ได้ข้ามขั้นตอนใด ๆ ในระยะการทดลอง

อาการข้างเคียง?

  • อาการทั่วไปที่พบในอาสาสมัครระยะทดลองคือ มีอาการเหมือนไข้หวัด ที่ไม่ได้ติดไข้หวัด ปวดเมื่อย ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ปวดข้อ มีไข้ตัวร้อน แต่นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนแล้ว จากผลทดลองของอาสาสมัครทั้ง Pfizer และ Moderna พบว่า ~50% มีการข้างเคียงเบื้องต้น (ตามด้านบน) หลังรับเข็มแรก และกว่า 70-80% มีอาการหลังรับเข็มสอง แล้วก็มีประมาณ 10-20% ที่อาการหนักกว่าอาการเบื้องต้น ต้องลาป่วย ไปทำงานไม่ได้
  • หลังจากวัคซีนได้เริ่มให้ในวงกว้าง ก็จะต้องมีการตามเก็บผลประสิทธิภาพ และอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากวัคซีนได้อีกมากขึ้นเรื่อย ๆ บางรายที่ได้รับเข็มสองไปแล้ว อาการหนักกว่าครั้งแรก ปวดเมื่อย ปวดหัว ตัวร้อน มีต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้โต (จุดที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่ฉีด แต่อาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 48 ชั่วโมง

การใช้ยาในช่วงขณะรับวัคซีน?

  • หากมีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาเป็นประจำ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนได้รับวัคซีน

กลัวจะเป็นไข้หนัก กินยาพารา ยาแก้ปวดดักไว้ก่อนฉีดวัคซีนได้มั้ย?

  • ไม่ควร เพราะการกินยาแก้ปวดลดไข้ก่อนฉีด จะส่งผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนลดลง แต่กรณีถ้ามีอาการไข้หรือปวดหลังรับวัคซีน สามารถกินยาแก้ปวดลดไข้ได้
ถ้าฉีดวัคซีนแล้วไปตรวจเชื้อจะเจอว่าผลบวกมั้ย?
  • ไม่เจอ เพราะวัคซีนชนิดนี้เป็นเพียงสารพันธุกรรม ไม่ใช่เชื้อจริง ไม่มีคุณสมบัติในการติดเข้าสู่เซลล์เยื่อบุ

ถ้ามาฉีดเข็มสองช้ามีผลอะไรมั้ย?

  • หากเป็นไปได้ก็ควรได้มาฉีดเข็มสองตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะวัคซีนส่วนใหญ่จะมีกฎเกณฑ์ว่าช้าได้ไม่เกินกี่วัน ถ้าเกินกี่วันจะต้องเริ่มนับเข็มหนึ่งใหม่ สำหรับวัคซีนโควิดตอนนี้ยังไม่มีผลตรงส่วนนั้น จนกว่ากรมควมคุมโรค CDC จะออกมาประกาศอย่างเป็นทางการอีกที
  • ในช่วงระยะทดลองวัคซีน ของทั้ง Pfizer และ Moderna ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับวัคซีนแล้วเอาอยู่ในเข็มเดียว การได้รับประสิทธิภาพสูงสุดคือต้องได้รับเข็มที่สองแล้วเท่านั้น Pfizer เคลมว่าวัคซีนจะป้องกันได้สูงสุดก็ต่อเมื่อรับเข็มที่สองไปแล้ว 7 วัน (ระยะเวลาระหว่างเข็มแรก กับเข็มสองเว้น 21 วัน) ทางฝั่ง Moderna อยู่ที่ 14 วัน (ระยะเวลาระหว่างเข็มแรก กับเข็มสองเว้น 28 วัน) แต่ตอนนี้มีของ Johnson and Johnson ที่กำลังเร่งเก็บผลจากวัคซีนประเภทเข็มเดียวเอาอยู่ อาจจะได้ข่าวดีในเร็ว ๆ นี้
ถ้าเคยติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ ยังรับวัคซีนได้มั้ย?
  • ได้ เพราะตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าการติดเชื้อโดยธรรมชาติจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่การได้รับวัคซีนคือการยืนยันว่ามีภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ มีผลการทดลองยืนยันในกลุ่มคนกลุ่มใหญ่แล้ว แต่ไม่ควรรับวัคซีนในขณะที่กำลังติดเชื้อ ควรจะรับหลังจากที่หาย กลับมาใช้ชีวิตปกติทั่วไปแล้วเท่านั้น
ถ้าเลือกได้ว่าจะฉีดเลยหรือรอก่อน จะเลือกอะไรดี?
  • ขึ้นอยู่กับบุคคล สถานการณ์และสถานที่ ต้องประเมินตัวเองว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนที่จะได้รับเชื้อ หรือถ้าได้รับเชื้อแล้วจะมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และถ้าเป็นไปได้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และจำนวนเคสคนติดเชื้อ คนเสียชีวิตในแต่ละวัน มันได้ตอบแล้วว่า เราควรมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ ที่เราไม่อาจะรู้เลยว่าวันดีคืนร้ายเราจะติดเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วถ้าเราติด เราก็แพร่เชื้อให้คนอื่นได้ต่อๆกันไป แพร่ไปให้คนอื่นแล้วคนอื่นอาจจะเป็นหนักเสียชีวิตได้ เป็นตราบาปไปตลอดชีวิตเราอีก ข้อมูลและผลการทดลองที่มีน่าเชื่อถือได้ว่าเราจะปลอดภัยและมีการสร้างภูมิคุ้มกันแน่นอน แต่สิ่งที่เราไม่รู้เลยคือจะยาวนานแค่ไหน ต้องฉีดทุกปีมั้ย ตรงนี้ก็ยังต้องรอดูต่อไป

ที่มา: Facebook : Siriruk Ch

อ่านข่าวเกี่ยวกับ โควิด-19 เพิ่มเติมได้ที่นี่

ไทยเกอร์นิวส์

นำเสนออัปเดตข่าวสารบ้านเมือง ข่าวล่าสุด มั่นใจว่าคุณจะทันทุกสถานการณ์ ไม่ว่า สังคมเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง เรื่องร้อนออนไลน์ ดราม่าดารา อัปเดตบันเทิง ซีรีส์ หนัง เพลง ท่องเที่ยว กีฬา ตรวจหวย เลขเด็ด พร้อมเสิรฟ์ทุกเรื่องยาก ๆ ย่อยให้คุณเข้าใจง่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button