รู้จักโรค RSV คืออะไร อาการและการวินิจฉัย รวมถึงวิธีป้องกัน
เป็นหนึ่งในโรคที่กำลังเป็นที่กังวลอยู่ในสังคมไทยขณะนี้คือ โรค RSV ที่ได้มีแม่ของเด็กผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวรายหนึ่งได้โพสต์อุทาหรณ์ไว้ มาดูข้อมูลกันว่าโรค RSV นี้ที่พรากชีวิตเด็ก คืออะไร
โรค RSV คืออะไร
โรคดังกล่าว เป็นโรคทางระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อไวรัส Respiratory syncytial virus (RSV) โดยผู้ป่วยจะติดเชื้อกับเซลล์ที่เยื่อบุในรูปแบบ syncytium เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง
โรคนี้มักพบในเด็ก การแพร่ระบาดมักเกิดขึ้นได้ดีในสภาพอากาศหนาวเย็น ฤดูหนาว ในสภาพอากาศเขตร้อนการติดเชื้อมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน
ในสหรัฐอเมริกา 60% ของทารกติดเชื้อในช่วงฤดู RSV ปีแรก และเด็กเกือบทั้งหมดจะติดเชื้อไวรัสเมื่ออายุ 2–3 ปี 2–3% ของผู้ที่ติดเชื้อ RSV พบว่าจะเป็นโรคหลอดลมฝอยอักเสบจำ เป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
การติดเชื้อ RSV ตามธรรมชาติก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันในการป้องกัน แต่จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไปซึ่งอาจลดลงมากกว่าการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจอื่น ๆ และสามารถทำให้คนติดเชื้อได้หลายครั้ง
บางครั้งทารกอาจติดเชื้อได้มากกว่า 1 ครั้ง ทั้งนี้ พบการติดเชื้อ HRSV อย่างรุนแรงในผู้ป่วยสูงอายุมากขึ้น คนหนุ่มสาวสามารถติดเชื้อซ้ำได้ทุก ๆ ห้าถึงเจ็ดปีโดยมีอาการเหมือนการติดเชื้อไซนัสหรือเป็นหวัด (การติดเชื้ออาจไม่มีอาการได้เช่นกัน)
RSV โรคนี้ตรวจวินิจฉัยอย่างไร
สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การฟังเสียงที่ผิดปกติของการหายใจ จะได้ยืนเสียงฮืด ๆ หรือเสียงอื่น ๆ ที่หน้าปกซึ่งปกติแล้วจะไม่ได้ยิน หรือแน่นอนกว่านั้นจะใช้วิธี การเอกซเรย์ทรวงอกเพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของหลอดลมฝอยอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบผิวหนังเพื่อตรวจหาภาวะขาดออกซิเจนซึ่งเป็นระดับออกซิเจนในกระแสเลือดที่ต่ำกว่าปกติ การตรวจเลือดเพื่อตรวจจำนวนเซลล์สีขาวหรือเพื่อค้นหาว่ามีไวรัสแบคทีเรียหรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และการทดสอบสารคัดหลั่งในระบบทางเดินหายใจในห้องปฏิบัติการ เป็นต้น
การป้องกันโรค
แนะนำให้ล้างมือและหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
การใช้ยาPalivizumab (ชื่อทางการค้า Synagis ที่ผลิตโดยMedImmune ) ซึ่งเป็นยาป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพในระดับปานกลางมีให้สำหรับทารกที่มีความเสี่ยงสูง Palivizumab เป็นแอนติบอดีโดยตรงต่อพื้นผิว RSV ฟิวชั่นโปรตีน ให้โดยการฉีดรายเดือนซึ่งจะเริ่มก่อนฤดู RSV และโดยปกติจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาห้าเดือน
