ธนกร เตือนธนาธร อย่าชี้นำเยาวชน ขอน้อง ๆ มีสติ ลงถนนไม่ช่วยให้ดีขึ้น
อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกความเห็นเรื่อง ชุมนุมเยาวชนปลดแอก เกรงจะนำมาสู่ความขัดแย้งอีกครั้งในอนาคต เตือน ธนาธร คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลว่าอย่าชี้นำ ควรพูดคุยผ่านสภาและดำเนินการให้ถูกต้อง ขอให้เยาวชนมีสติ ชุมนุมบนถนนไม่ได้ช่วยอะไร ควรออกความเห็นอย่างสันติ เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยินดีรับฟัง
จากสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้ที่กำลังคุกรุ่น มีเสียงส่วนหนึ่งต้องการการเปลี่ยนแปลงเพราะไม่อาจทนกับสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้แล้ว หลายคนได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจประเทศที่ถดถ่อยและยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 จึงเป็นความท้าทายใหม่ของรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรเมื่อวิธีเดิม ๆ เริ่มใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
ล่าสุด นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ว่า การชุมนุมของนักศึกษาและการเคลื่อนไหว 2 ทางของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล อาจนำมาสู่ความขัดแย้งในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกเพราะประเทศไทยก้าวผ่านจุดนั้นมาแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงประเทศชาติและประชาชน
อีกทั้งอยากให้เห็นใจนายกรัฐมนตรีเนื่องจากท่านกำลังเร่งแก้ไขปัญหา ทั้งปัญหาโควิด-19 ที่ประเทศไทยมีการจัดการเป็นระบบจนสามารถควบคุมได้อย่างดีแล้ว ส่วนผลกระทบด้านเศรษฐกิจก็กำลังดำเนินการเยียวยาอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นเวลานี้ประเทศไทยควรจะสามัคคี ไม่ใช่ขัดแย้งกัน
นอกจากนี้ จากคำยืนยันของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเพราะมีภาพคนของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ในเหตุการณ์
ส่วนคำพูดของนายธนาธรที่ว่า การเมืองที่รุนแรงขึ้นครั้งนี้สามารถยับยั้งได้ด้วยการพูดคุยกัน ไม่อยากให้มีการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐเห็นด้วยแต่นายธนาธรต้องกลับไปพูดคุยกับคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล รวมทั้งทำความเข้าใจกับแกนนำม็อบให้พูดคุยกันผ่านสภา เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะรับฟังทุกปัญหาและความเห็นจากประชาชน
สุดท้ายยังฝากถึง เยาวชนรุ่นใหม่ให้มีสติ เชื่อในพลังบริสุทธิ์ของน้อง ๆ เยาวชนแต่ควรแสดงพลังบริสุทธิ์อย่างถูกต้อง ไม่ใช่การชุมนุมบนท้องถนน เราสามารถหาทางออกร่วมกันอย่างสันติได้และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมรับฟังเสียงจากประชาชนแน่นอน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ