ขสมก.โต้ กรณีเครื่องดักฝุ่นบนรถเมล์ ใช้ได้ผล
ขสมก.โต้ กรณีเครื่องดักฝุ่นบนรถเมล์ ใช้ได้ผล
จากกรณีที่มีข่าวติดตั้งเครื่องฝุ่นPM2.5บนรถโดยสารสาธารณะ(ขสมก) เพื่อดักฝุ่นPM2.5 โดยให้ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้วิจัยโครงการดังกล่าว และทำให้อาจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาโต้แย้งว่า โครงการดังกล่าว ไม่ได้ผล จึงไม่ต่างกับเครื่อง GT200
อ่านข่าวก่อนหน้า : อ.เจษฎาโต้ เครื่องกรองอากาศบนรถเมล์ ไม่ต่างจากGT200
ศักดิ์สยาม เล็งติดเครื่องฟอกอากาศบนรถเมล์ หวังลดPM2.5
ล่าสุด ขสมก.ชี้แจงการติดตั้งเครื่องกรองอากาศบนหลังคารถโดยสาร
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ทดลองติดตั้งเครื่องกรองอากาศต้นแบบ เพื่อทดสอบแนวความคิด ในการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ของกระทรวงคมนาคม
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว กรณีที่นักวิชาการบางท่าน ได้แสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการที่ ขสมก.ติดตั้งเครื่องกรองอากาศบนหลังคารถโดยสาร ของ ขสมก.ว่า เป็นเรื่องลวงโลกเช่นเดียวกับเครื่อง GT 200 นั้น ขสมก. จึงขอชี้แจงข้อมูล ดังนี้
- กระทรวงคมนาคม มีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จึงได้ทดสอบการติดตั้งเครื่องกรองอากาศต้นแบบ บนหลังคารถโดยสารของ ขสมก. เพื่อทดลองกรองอากาศในการดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ขณะรถโดยสารวิ่งให้บริการประชาชน
- การทำงานของเครื่องต้นแบบ ใช้หลักการกวาดอากาศที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ซึ่งเเขวนลอยอยู่บนถนน ที่มีการจราจรหนาเเน่นในกรุงเทพมหานคร ในระดับความสูงไม่เกิน 5 เมตร เมื่อรถวิ่ง อากาศจะปะทะเข้าหน้ารถ และผ่านเข้าเครื่องกรองโดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการดังกล่าว สามารถกรองอากาศได้ โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน เนื่องจากไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการดูดลมเข้าเครื่องกรอง ดังเช่นเครื่องกรองอากาศทั่วไป อีกทั้ง ไส้กรองอากาศที่ใช้ จะเป็นไส้กรองที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ได้ แต่มีราคาถูก สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ซึ่งหลักการนี้ เป็นหลักการเดียวกับการใช้แก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ในเมือง เซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ
- รถโดยสารที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่มีหน้ากว้าง 0.5 ลูกบาศก์เมตร บนหลังคา จะสามารถกวาดอากาศเข้าเครื่องกรอง ได้ 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อการวิ่งรถ 1 เที่ยว (เมื่อรถโดยสารวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทางยาว 20 กิโลเมตร) ซึ่งงานวิจัยในต่างประเทศ ระบุว่า ผู้ใหญ่ 1 คน จะสูดอากาศหายใจเฉลี่ย 0.5 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ดังนั้น รถโดยสาร 1 คัน จะสามารถกรองอากาศ ให้กับประชาชนที่อยู่บนถนนได้ถึง 20,000 คน
- จากการทดลองนำรถโดยสาร ที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศบนหลังคารถ มาวิ่งให้บริการประชาชน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ขณะที่รถวิ่ง ผลการวัดค่า PM 2.5 ในอากาศก่อนเข้าเครื่องกรอง มีค่าอยู่ในระดับ 48 – 52 (คุณภาพอากาศปานกลาง) ในขณะที่ อากาศที่ผ่านเครื่องกรองออกมาแล้ว มีค่าอยู่ในระดับ 1 – 5 (คุณภาพอากาศดีมาก)
- การทดลองนี้ เป็นความพยายามในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประชาชน โดยกระทรวงคมนาคม ได้แต่งตั้งคณะทำงานจากหลายหน่วยงาน ซึ่ง ขสมก. ได้ดำเนินการทดลองนี้ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม หากการทดลองต่อเนื่องได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เเละหลักเกณฑ์ของสำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบกต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิเติม:bmta.co.th