อัปเดตไวรัสโคโรน่าในไทยล่าสุด 30 ม.ค. -แนะวิธีใส่หน้ากากอนามัย
อัปเดตไวรัสโคโรน่าในไทยล่าสุด 30 ม.ค. -แนะวิธีใส่หน้ากากอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคปอดติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประจำวันที่ 30 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ 14 ราย กลับบ้านแล้ว 6 ราย นอนโรงพยาบาล 8 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวัง 202 ราย จากการคัดกรองจากสนามบิน 31 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 171 ราย อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 67 ราย รักษาต่อในโรงพยาบาล 135 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 17 ประเทศ และ 2 เขตปกครองพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 6,066 ราย ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 27 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 5,974 ราย เสียชีวิต 132 ราย
ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” งดแชร์ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ และมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ Line@/เฟสบุ๊ค: รู้กันทันโรค,Coronavirus2019, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประชาชนสามารถตรวจสอบข่าวลวงได้ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม www.antifakenewscenter.com
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในหลายประเทศ สร้างความกังวลให้กับประชาชน แม้ในประเทศไทยจะยังไม่พบการระบาดของโรค ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ประชาชนนึกถึงคือ หน้ากากอนามัย ซึ่งประชาชนสามารถใช้หน้ากากที่ทำจากผ้า เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ ปัจจุบันหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Face Mask) แนะนำให้ใช้สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยเช่น ไอ จาม น้ำมูก จึงขอแนะนำให้ประชาชนทั่วไป ที่ไม่ได้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ สามารถใช้หน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าเป็นทางเลือกนำมาใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคได้เช่นเดียวกัน และสามารถซักทำความสะอาดนำมาใช้ซ้ำได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เหมาะกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตามประชาชนยังคงต้องดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวด้วยการสร้างสุขอนามัยที่ดี หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำ หากจำเป็นต้องไปในที่มีผู้คนหนาแน่นหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการรับหรือแพร่กระจายเชื้อโรค